” เรื่องราวแห่งอะฮ์ลุลเบต คือ เรื่องราวแห่งมนุษยชาติ “
เรื่องราวแห่งอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)นั้นไม่ใช่เรื่องราวจำเพาะสำหรับชนชาติใดชนชาติหนึ่ง ……ไม่ใช่เรื่องราวจำเพาะสำหรับคนศาสนาใดศาสนาหนึ่ง มนุษย์ทุกคนสามารถที่จะรับรู้เรื่องราวของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)
มนุษย์ทุกคนจะได้รับประโยชน์ มนุษย์ทุกคนจะได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องราวต่างๆโดยไม่มีพรมแดนของศาสนา เพียงแต่ว่าบุคคลที่มีศาสนา….. บุคคลที่เป็นมุสลิม…. หรือบุคคลที่มีความรัก ย่อมได้ประโยชน์จากเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ได้มากที่สุด และมากกว่ากลุ่มบุคคลอื่นใด
เมื่อเรื่องราวแห่งอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)เป็น “ซิกรุล ลิลอาละมีน” แล้ว ด้วยเหตุผลอันนี้บรรดาอะอิมมะฮฺ(อ)จึงเรียกร้อง สั่งเสียและเชิญชวน บ่อยครั้งเป็นอย่างมาก ในฮาดิษต่างๆที่บอกกับบรรดาชีอะฮฺและบรรดาบุคคลผู้ที่มีความรักต่อบรรดาอะฮฺลุลบัยต(อ)ว่า…
“จงนำเสนอเรื่องราวต่างๆของเรา ไปยังมวลมนุษยชาติเถิด”
ฮะดิษไม่ได้บอกไปยังชีอะฮฺหรือเพียงแต่มุสลิมเท่านั้น แต่กำชับให้นำเสนอไปยังมวลมนุษยชาติ ศาสนาไม่ได้เป็นเครื่องแบ่งแยกในการที่เขาจะรักเราและปฏิบัติตามเรา
ท่านอิมามญะอฺฟัร(อ) และท่านอิมามริฎอ(อ) จึงได้กล่าวไว้ว่า…..
ﺇﻥّ ﺍﻟﻨّﺎﺱَ ﻟَﻮ ﻋَﻠِﻤُﻮﺍ ﻣَﺤﺎﺳِﻦَ ﮐَﻼﻣِﻨﺎ ﻟَﺎﺗَّﺒَﻌُﻮﻧﺎ
ความว่า “แน่แท้ หากมวลมนุษย์ชาติได้รับรู้วจนะที่ดีของเราแล้ว พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามเราอย่างแน่นอน”
อ้างอิง
มะอานี อัลอัฆบาร์ หน้า ๘๐ และ มีซานุล ฮิกมะฮฺ เล่ม ๘ ฮะดิษ ที่ ๑๓๗๙๗
อะฮฺลุลบัยตฺ(อ)คือ แบบฉบับของมวลมนุษยชาติ
การนำเสนอเรื่องราวของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ) คือ การนำเสนอเรื่องราวแห่ง ”ซิกรุล ลิล อาละมีน” นี่คือหัวข้อที่หนึ่ง ที่ยิ่งใหญ่ และในเรื่องราวของบรรดาอะฮฺลุลบัยต(อ)นั้น “ไม่มีเรื่องราวใดๆที่จะยิ่งใหญ่ เท่ากับเรื่องราวของท่านอิมามฮูเซน(อ) แม้นว่า อะฮฺลุลบัยต(อ)ทุกท่านจะเป็น “ซิกรุลลิลอาละมีน” แต่เรื่องราวสูงสุดของบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ(อ) หรือเป็นซิกรุลลิลอาละมีนขั้นสูงสุดนั้น ก็คือ “เรื่องราวของท่านอิมามฮุเซ็น(อ)” ……!!!
ดังนั้น ในค่ำคืนนี้ซึ่งเป็นคืนที่ 4 เราจะเห็นว่าการรำลึกอย่างเป็นทางการในเรื่องราวของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ) การรำลึกถึงท่านอิมามฮุเซ็น(อ)นั้นได้ถูกมอบให้เป็นสิ่งที่ควรแก่การรำลึกมากที่สุด
ถ้าเราจะนับวันอย่างเป็นทางการอย่างน้อยที่สุด 1 ถึง 10 หรือ ถึง 11 วันของเดือนมุฮัรรอม หลังจากนั้นตามด้วยอัรบาอีน จากนั้นตามด้วยวันวิลาดัตของท่านอิมามฮุเซ็น(อ) สรุปอย่างเป็นทางการประมาณ 12 วัน หลังจากนั้นมีคำสั่งอย่างไม่เป็นทางการ แต่อย่างไม่เป็นทางการนี้มันก็ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ซึ่งเราได้ฟังมาพอสมควรแล้ว เช่น เมื่อเราจะนมาซ บรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)ได้กำชับว่า หลังจากเหตุการณ์กัรบาลาอฺ ดินที่ดีที่สุดที่เราจะซูญูด คือ “ ดินกัรบาลาอฺ”…. !!!
หนึ่งในเป้าหมายของการซูญูดบนดินกัรบาลาอฺ ก็เพื่อต้องการที่จะให้เรานั้นรำลึกถึงท่านอิมามฮุเซ็น(อ) นับจากก่อนนมาซ….. ขณะนมาซ…. และหลังจากนมาซ
ความจริงแล้ว ที่ให้จูบดินหลังนมาซ ก็คือ เราจูบดินกัรบาลาอฺ และให้มองดินก่อนที่เราจะ “ตักบีรอตุลอิฮ์รอม” ก็คือ การมองดินกัรบาลาอฺ ในระหว่างนมาซ ในขณะที่กำลังอ่านฟาติฮะฮฺ ก็กำชับว่าให้มองไปที่ดิน และเป้าหมายของคำสั่งที่ให้มองไปที่ดิน ก็คือ ดินแห่งกัรบาลาอฺนั้นเอง
นอกจากนั้นยังมีคำสั่งเสียอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งไม่จำเป็นที่ต้องเข้าไปในรายละเอียดของมัน ไม่ว่าเราจะดื่มน้ำ หรือในค่ำคืนอื่นๆ
ถ้าเราพิจารณาในคืนนิซฟูชะอฺบาน หนึ่งในอามั้ลที่ดีที่สุดคือ การขึ้นไปบนหลังคาหรือที่อื่นในที่ ที่ไม่มีสิ่งกีดกั้นระหว่างเราจากฟากฟ้า
แล้วก็ให้สลามกับท่านอิมามฮุเซ็น(อ)
แม้แต่ในคืนนิซฟูชะอฺบาน และอีกหลายๆคืนที่เป็นคืนวิลาดัต คืนประเสริฐต่างๆของบรรดาอะอิมมะฮฺ(อ)หรือคืนที่เกี่ยวข้องกับวันอีดต่างๆของมัน ในแนวทางของพวกเรานั้น จะมีอามั้ลหนึ่งที่ควบคู่กัน ถ้าพูดถึงในภาคของอามั้ลที่เกี่ยวข้องกับวันต่างๆเหล่านั้น ก็คือ การรำลึกถึงท่านอิมามฮุเซ็น(อ)
แน่นอน !!! มีเหตุผลมากมายหลายประการ เพราะเรื่องราวแห่งกัรบาลาอฺ คือ เรื่องราวยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นเรื่องราวที่มีรายละเอียดมากที่สุดที่จะต้องทำความเข้าใจ
เพราะ “ปราศจาก การทำความเข้าใจเรื่องราว
แห่งกัรบาลาอฺ
ปราศจาก การทำความเข้าใจเรื่องราว
แห่งวันอาชูรอ
มนุษย์จะไม่มีวันประสบความสำเร็จในการนับถือศาสนา
มนุษย์จะไม่มีวันประสบความสำเร็จในการเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง……..
มนุษย์จะไม่มีวันประสบความสำเร็จในการที่จะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์….!!!”
ด้วยเหตุผลนี้ การรำลึกอันนี้จึงจะต้องรำลึกไปถึงวันกิยามะฮฺ
@@@@@@@@@
บางส่วนในปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ
มุฮัรรอม คํ่าคืนที่ 4 ค.ศ.1436
(อ 28-10-2557)
บรรยายพิเศษ โดยฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
ณ มัสยิดรูฮุลลอฮ์