การสดุดีท่านอิมามฮุเซ็น(อ)
การให้สลามกับท่านฮุเซ็น(อ)และบรรดาอัศฮาบของท่าน มิได้หมายถึงสลามเพียงแต่ลมปาก การสดุดี การสลาม คือ การสดุดีเชยชม การชื่นชม ซึ่งอยู่ในคำว่า สลามเพียงคำเดียว เพียงแต่เราต้องศึกษา ทำความเข้าใจว่า ทำไมอิสลามจึงเลือกคำว่า สลาม ????
คำว่า สลาม เป็นวิธีการตะฮียะฮ์ เป็นวิธีการแสดงการยอมรับ การชมชอบ การสดุดี การสรรเสริญ ฯลฯ
สลาม คือ การยอมรับ สลาม คือ การสดุดี
แน่นอนเบื้องต้น “สดุดี” เพียงลมปาก แต่ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เนื่องจากในการสดุดีครั้งนี้เราจะเห็นว่า เราอ่านกันเป็นประจำทุกคืนวัน ทั้งก่อนหลังมัจญลิส ซึ่งมีประโยคหนึ่งในบทซิยารัตอาชูรอ ที่กล่าวว่า
ﻭَﻻ ﺟَﻌَﻠَﻪُ ﺍﻟﻠﻪُ ﺁﺧِﺮَ ﺍﻟْﻌَﻬْﺪِ ﻣِﻨّﻲ ﻟِﺰِﻳﺎﺭَﺗِﻜُﻢ
ความว่า “และขอพระองค์โปรดอย่าได้กำหนดให้การซิยารัตพวกท่านในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับข้าพระองค์”
หมายความว่า ขณะที่เราให้สลามอยู่นั้น ขออย่าได้เป็นสลามครั้งสุดท้ายสำหรับเราเลย ถ้าชีวิตนี้ยังมีอยู่ ขอให้ได้สลามแบบนี้ตลอดไป
จริงๆแล้วการสลามให้กับวีรกรรมนั้นชัดมาก
สลามไปยังท่าน…..
สลามไปยังดวงวิญญาณทั้งหมดที่ได้พลีเคียงข้างท่าน…..สลามไปยังบุตรของท่านที่ได้อยู่ร่วมกับท่าน……
สลามไปยังอัศฮาบของท่านที่ได้พลีเพื่อท่านในวันนั้น……
เหตุผลอันหนึ่งที่เราให้สลามเช่นนี้ เพราะเรื่องราวมันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีรายละเอียดมากมายที่จะต้องทำความเข้าใจในเนื้อหาของมัน เราจึงจะต้องรำลึกปีแล้วปีเล่า ในหลายๆประเทศเขารำลึกไปจนถึงอัรบาอีน รำลึกอย่างเป็นทางการถึง 50 วัน เพื่อจะทำความเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ ปราศจากการทำความเข้าใจทุกบริบทของวีรกรรมอันนี้ และทุกวาทกรรมของกัรบาลาอฺแล้ว เราจะไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นมุสลิมและเป็นสหายของท่านอิมามฮุเซ็น(อ)อย่างแท้จริง
วีรกรรมใหม่ทั้งหมดที่เกิดมา ล้วนได้รับแรงบันดาลใจ จากวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺ
การที่จะเป็นผู้ที่มีความรักที่แท้จริงต่ออะฮฺลุลบัยตฺ(อ)และต่อท่านอิมามฮุเซ็น(อ)นั้น เราต้องศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อจะนำความเข้าใจทั้งหมดมาปรับใช้ในวิถีชีวิตของเรา
เข้าใจเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เนื่องจากวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราโศกเศร้า ไว้ทุกข์ ไว้อาลัยเท่านั้น
วีรกรรมอันนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นวีรกรรมอันอมตะ หลังจากวีรกรรมอันนี้ไม่มีวีรกรรมใดอีกแล้วในโลกนี้ ที่จะเป็นแบบอย่างแห่งมวลมนุษยชาติ จะมีเพียงวีรกรรมอันนี้อันเดียวเท่านั้น และถ้าเกิดวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ใดๆในโลกนี้ที่เป็นที่ยอมรับโดยอิสลามแล้ว พึงรู้ว่า วีรกรรมใหม่ทั้งหมดที่เกิดมาล้วนได้รับแรงบันดาลใจ จากวีรกรรมอันนี้เท่านั้น…..!!!
ฉะนั้น หน้าที่ของพวกเราทุกคนจะต้องทำความเข้าใจในทุกๆบริบทของมัน ทั้งบริบทของวีรกรรม และบริบทของวาทกรรม ซึ่งยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก จะต้องค้นหาด้วยตัวเองด้วยความเข้าใจว่า ทำไมวีรกรรมกัรบาลาอฺ จึงเป็นอมตะ????
พวกเราทุกคนสามารถที่จะรับรู้ได้ว่า ทำไมเมื่อเดือนมุฮัรรอมมาถึง
จิตใจของพวกเราก็เปลี่ยนไป……
จิตใจของพวกเรามันเร่าร้อน……
เรามีความกระตือรือร้น……
เมื่อเราเสียใจ เราก็เสียใจเหมือนกับเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันวาน หรือเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
ทำไม เมื่อได้รับรู้เรื่องราวต่างๆเรารู้สึกว่าเหมือนกับเราอยู่ในเหตุการณ์นั้น ???
ความเป็นอมตะของมันก็ไม่ได้เป็นอมตะแบบเย็นชา แต่มันเป็นความอมตะแบบเร่าร้อน
แน่นอน !!! มีปัจจัยมากมายหลายประการ ที่เราจะต้องรับรู้และสัมผัสเรื่องราวนี้ให้ได้อย่างลึกซึ้ง เพราะทุกวีรกรรม ทุกวาทกรรมจะต้องทำความเข้าใจแบบวิเคราะห์และเจาะลึกอย่างแท้จริง
ดังนั้น “เราจะต้องศึกษา ค้นคว้า ทำความเข้าใจ และนำความเข้าใจอันนั้นมาสู่บริบทแห่งการปฏิบัติ หล่อหลอมตัวของเราทุกๆคนให้มีจิตวิญญาณเดียวกับจิตวิญญาณที่เคยเกิดขึ้น ณ แผ่นดินกัรบาลาอฺ และขบวนการปฏิวัติของท่านอิมามฮุเซ็น(อ) ”
@@@@@@@@@
บางส่วนในปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ
มุฮัรรอม คํ่าคืนที่ 4 ค.ศ.1436
(อ 28-10-2557)
บรรยายพิเศษ โดยฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
ณ มัสยิดรูฮุลลอฮ์