ความสิ้นหวังในระบอบการปกครองโดยมนุษย์ ก่อนการมาปรากฏของอิมามมะฮ์ดี (อ.) (ตอนที่ 4 จบตอน)

22
📝บางส่วนจากธารธรรมโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
______________

•••ยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง มนุษย์ก็พยายามปฏิเสธ เรื่องบทบาทของศาสนา บางครั้งก็อาจนิยามเป็นภาษาที่ทางการเรียกว่า…

“เราจะต้องแบ่งแยกระหว่าง ศาสนจักร กับ อาณาจักร ให้ออกจากกัน “

ซึ่งปัจจุบันนี้ ทุกระบบการปกครองที่มนุษย์คิดค้นมา ก็ได้ล่มสลายไป ที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็นระบอบอะไรก็ตาม ก็ล้มเหลวและกำลังจะล่มสลายตามไปด้วย เช่น ระบบคอมมิวนิสต์ ก็เกือบจะจบสิ้นแล้ว
ระบบสังคมนิยม เสรีนิยม กำลังจะหมดไปแล้ว ระบบทุนนิยม ก็กำลังจะล่มสลายอีกเช่นกัน
และระบบประชาธิปไตยเอง ตอนนี้ก็เป็นที่ถกกเถียงกันแล้วว่า อะไร คือ ประชาธิปไตยที่แท้จริงกันแน่ !!!

เมื่อมนุษย์เกิดความท้อแท้ สิ้นหวัง และสับสน จากระบบการปกครองต่างๆที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ยิ่งค้นหาการปกครองไป จะพบว่า ไม่มีระบบใดที่จะเป็นคำตอบสุดท้ายให้กับมนุษย์ได้ นอกจากระบบที่มาจากคำสั่งสอนของศาสนา และธรรมะเท่านั้นที่จะนำความสันติมาสู่โลกทั้งผองให้รอดพ้นจากภยันอันตรายทุกประเภทได้

ในอดีต มนุษย์อาจจะคิดว่าระบบนั้นดี ระบบนี้ไม่ดี และคิดว่าระบบประชาธิปไตย คือ ระบบที่ดีที่สุด แต่แล้วมนุษย์ก็สิ้นหวังกับระบบการปกครองทุกระบบ

เมื่อเกิดความสิ้นหวัง ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วระบบอะไรกันเล่าที่จะให้คำตอบที่ดีที่สุดให้กับมนุษย์ได้

หนึ่งในคำตอบที่มนุษยชาติต้องการ คือ ประชาธิปไตยที่ทำให้สังคมเกิดความสงบสุข และเป็นความสงบสุขที่ได้จาก ระบบการเมืองที่ถูกต้องยุติธรรม

ดังนั้น ระบบการเมืองที่นำไปสู่ความสงบ มันจึงจะเป็นคำตอบสำหรับมนุษยชาติในปัจจุบัน

💠ฉะนั้น เรื่องราวของอิมามมะฮดี(อ) จึงได้ถูกเปิดเผย….

เมื่อวันหนึ่งวันใด ที่มนุษย์พัฒนาทำความเข้าใจในระบบที่มาจากคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้าถึงจุดนี้ได้ ก็จะเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องมีตัวแทนของพระเจ้า จะต้องมีมหาบุรุษที่แท้จริงผู้หนึ่งที่จะต้องมาเติมเต็มความต้องการ จากการเรียกร้อง เรียกหาของมวลมนุษยชาติ

➡️ เมื่อเราทำความเข้าใจ ก็จะรู้ว่าอิม่ามมะฮ์ดี(อ) ไม่ได้มาต่อสู้ในรูปแบบบังคับมนุษย์ให้มาอยู่ภายใต้ระบบการปกครองของท่าน เมื่อถึงวันนั้นมนุษย์จะร้องเรียกสิ่งนี้เอง จริงๆแล้วถ้าเรามอง ก็จะเห็นว่า มันกำลังพัฒนาไปสู่สิ่งที่มนุษย์เรียกร้อง เพราะมนุษย์สิ้นหวัง ผิดหวังไปกับทุกๆระบบที่ผ่านมา

ซึ่งเมืองไทยก็กำลังตกอยู่ในสภาวะนี้ วันนี้ในประเทศไทยก็กำลังหานิยามประชาธิปไตยกันใหม่ที่ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม หรือถ้ามีปัญหากับสังคม ก็น้อยที่สุด โดยหาประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายรับได้ ก็แน่นอน สุดท้ายก็ต้องกลับไปหาศีลธรรม จริยธรรมเพื่อควบคู่ไปกับการเมือง ซึ่งเมื่อเราพูดเรื่องศีลธรรมจริยธรรม ก็หนีไม่พ้นเรื่องศาสนาและบทบาทของศาสนา เพราะแนวคิดอุดุมการณ์อื่นๆไม่สามารถที่จะให้มีศีลธรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆก็ตาม ศีลธรรมและจริยธรรมมาจากศาสนาเท่านั้น ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองที่มนุษย์ต้องการ

🔻ดังนั้น บทบาทของศาสนานั้น จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมนุษย์ต้องการบทบาทต้องการการปกครองที่ศาสนามีบทบาท บุคลากรที่สามารถที่จะปกครองมนุษย์ทางด้านการเมือง โดยศาสนามีบทบาทเป็นอย่างมากก็ต้องเป็นบุคคลของศาสนา จึงจะกระทำสิ่งนี้ได้ เราจะเห็นว่า ในทุกๆศาสนาจึงเชื่อในผู้มาโปรด เป็นความเชื่อที่มีอยู่ในศาสนา คือ นำระบบการปกครองที่มาจากศาสนามาปกครองมวลมนุษยชาติ

🔹คำถาม : ในเรื่องที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี(อ) ก็จะเป็นการปกครองที่ใช้ศีลธรรมขึ้นมานำ ต่อไปเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ในเมื่อสังคมเข้าใกล้แล้ว สังคมเริ่มแสวงหาศีลธรรมแล้ว สังคมจะเป็นอย่างไร จะเกิดขึ้นก่อนอิมามมะฮ์ดี(อ)มาได้ไหม หรือว่าอิมามมะฮ์ดี(อ)มาก่อน ถึงจะเกิดการเมืองแบบศีลธรรม อย่างที่ท่านซัยยิด ยกตัวอย่างว่า อิหร่านก็เกิดแล้ว แล้วในไทยจะพัฒนาไปอย่างไร เพราะสุดท้ายสังคมก็ต้องการศีลธรรมควบคู่กับการมีสิทธิมีเสียงที่จะแสดงออกอย่างนั้นหรือเปล่า ?
🔸คำตอบ : สถานที่ใดที่เริ่มเข้าใจแบบนี้แล้วว่า การใช้ประชาธิปไตยแบบดิบๆที่ไม่มีบทบาทของทางศาสนา ไม่มีธรรมะเข้ามาเกี่ยวข้องเลยนั้นไปไม่รอด เมื่อส่วนหนึ่งเริ่มเข้าใจ ก็เริ่มแสวงหาประชาธิปไตยใหม่ ส่วนผู้ที่ชอบแบบต่อต้านศาสนาก็ยังมีอยู่ และถ้าคนส่วนมากยังนิยมประชาธิปไตยที่ไม่มีธรรมะก็จะเกิดปัญหา จะเกิดความขัดแย้ง จะมีการต่อสู้ เกิดการนองเลือด มีการเข่นฆ่า ที่เราเห็นมาทั้งหมดมันเกิดจากทัศนะคติ อุดมการณ์ทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน ส่วนประเทศไหนที่คิดว่า บทบาทของประชาธิปไตยที่มีธรรมะมีอำนาจขึ้นมา อย่างน้อยๆประเทศนั้นก็จะมีความสุขทางการเมืองมากกว่า ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีฝ่ายต่อต้าน แต่ฝ่ายต่อต้านมีน้อย ไม่สามารถที่จะสร้างผลกระทบในภาพใหญ่ได้

ดังนั้น ประเทศเหล่านั้นก็จะมีบริบทในการรอคอยอิมามมะฮ์ดี(อ)อีกรูปแบบหนึ่ง คือ พัฒนาด้านอื่นๆ แต่ส่วนประเทศที่ยังไม่เข้าใจ ยังไม่ยอมรับบทบาทของธรรมะของศาสนา ก็จะมีการต่อสู้เพื่อให้ได้มาอำนาจของแต่ละฝ่ายก่อน ซึ่งผมคิดว่ามันใกล้แล้ว อินชาอัลลอฮ น่าจะต้องหลุดพ้นจากบริบทอันนี้

🔹คำถาม : ถ้าเราเอาเรื่องนี้มาจับกับเรื่องสัญญาณสัญลักษณ์การปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี(อ) สุดท้ายวันที่ถูกสัญญาไว้ ก็คือ วันที่การเมืองมีศีลธรรม เราคาดการณ์อย่างนี้ได้หรือไหม?

🔸คำตอบ: จะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย เพราะ การเมืองจะไม่มีศีลธรรมไปทั่วได้ อิหร่านเป็นเพียงภาพฉาย ให้เห็นว่า นี่คือรัฐที่มีศาสนาเป็นแบบอย่าง การเมืองทั่วทั้งโลกจะสับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก จะมีการก่อการจราจล เพราะบรรดาผู้ปกครองไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลง เขาจะใช้อำนาจในการกอบโกย มีการคอรัปชั่น ความไม่เมตตาไม่ปรานีจะเกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลก

ซึ่งวันนี้เราก็เริ่มเห็นปรากฏการณ์ต่างๆเหล่านี้ และมนุษย์ทั่วไปที่ไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลง จำนวนมากเหล่านี้ก็จะรอคอยและเรียกหาอิมามมะฮ์ดี(อ) ส่วนผู้ที่มีอำนาจเขาไม่ต้องการ เพราะตัวของเขาเป็นผู้กดขี่ เขาจะครองไว้ซึ่งอำนาจของเขาเอง แต่คนจำนวนหนึ่งทั่วทั้งโลกที่อยู่ภายใต้การปกครองนี้ที่จะเจ็บปวดเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก กับระบบของการปกครองที่มีอยู่ในยุคปัจจุบันที่กำลังกดขี่พวกเขาอยู่ สิ่งนี้ทำให้เขาเริ่มเรียกร้องระบบการปกครองใหม่ และเริ่มเรียกหา ” ผู้ที่จะมาโปรด “•••