ขบวนการของอิมามฮุเซน(อ.)คือแบบฉบับของมนุษยชาติทั่วทั้งโลก
บทนำเเรกที่จะนำพาเราเข้าสู่เรื่องราวในวันนี้ สำนักคิดชีอะห์ เป็นสำนักคิดที่ตั้งอยู่บนปัญญา เป็นสำนักคิดที่ตั้งอยู่บนองค์ความรู้ต่างๆ และเป็นสำนักคิดที่อยู่ทางสายกลางดั่งที่อัลลอฮ์(ซบ.)ทรงตรัส ในซูเราะห์ บะกอเราะห์ โองการที่ 143
وَكَذَٰلِكَ جَعَلْنَاكُمْ أُمَّةً وَسَطًا
“และเราได้ให้พวกเจ้าทั้งหลายอยู่ทางสายกลาง”
เมื่อเราอยู่ทางสายกลางเหตุไฉนที่เราจะต้องรำลึกถึงอิมามฮุเซน(อ.)มากกว่าคนอื่นๆ?เหตุอันใดที่เราจะต้องเทิดเกียรติรักษาสานต่อขบวนการของอิมามฮุเซน(อ.)ให้คงอยู่ต่อไป?และทำใมการรักษาแบบฉบับของอิมามฮุเซน(อ.)การทำให้เรื่องราวของอิมามฮุเซน(อ.)มีชีวิตชีวาอยู่ตลอดนั้นมาจากเหตุผลอะไร?ทำใมในวโรกาสสำคัญต่างๆในศาสนาตั้งแต่ 13 รอญับ ซึ่งถือว่าเป็นวันถือกำเนิดอิมามอะลี(อ.) ซิยารัตอิมามฮุเซน(อ.)จึงเป็นมุสตะฮับ หรือวันที่17 รอบิลเอาวัลตรงกับวันถือกำเนิดของมหาศาสดา ซิยารัตอิมามฮุเซน(อ.)เป็นมุสตะฮับ หรือในทุกๆวันศุกร์ซิยารัตอิมามฮุเซน(อ.)เป็นมัสตะฮับ และทำใมวันต่างๆในค่ำคืนของก็อดร์ (19,21,23) หนึ่งในอะมั้ลที่ประเสริฐที่สุดคือ ซิยารัตอิมามฮุเซน(อ.)
ถามว่าการที่เรื่องราวของอิมามฮุเซน(อ.)ถูกผูกกับวโรกาสต่างๆมันมาจากเหตุและผลเพื่ออะไร?นอกเหนือจากนั้นเรามีฮะดิษที่พูดถึงการซิยารัตอิมามฮุเซน(อ.)หนึ่งในริวายัตที่ถูกบันทึกในหนังสือ กะมาลุซซิยารอต ของอิบนิกูละวัยได้บันทึกไว้ว่า : มีนักรอวีคนหนึ่งเขามาหาอิมามญะฟัรศอดิก(อ.)และนำสาส์นหนึ่งบอกอิมามว่า ฉันได้มีโอกาสไปทำฮัจญ์ 19 ครั้ง ท่านจงดุอาอฺให้ฉันได้ไปทำฮัจญ์ 20ครั้งด้วยเถิด..ท่านอิมามกล่าวต่อเขาว่า เจ้าได้เดินทางไปซิยารัตอิมามฮุเซน(อ.)แล้วหรือยัง? เขากล่าวตอบว่า ฉันยังไม่ได้ไปเลย อิมามญะฟัรซอดิก(อ.)กล่าวว่า “หากเขาไปซิยารัตที่กัรบะลา 1ครั้ง เขาจะได้มัคผลผลบุญมากกว่าการไปทำฮัจญถึง 20 ครั้ง”
แล้วอะไรถึงทำให้อะห์ลัลบัยต์(อ.)ให้ความสำคัญและให้ความสนใจเกี่ยวกับซิยารัตอิมามฮุเซน(อ.)รำลึกถึงอิมามฮุเซน(อ.)มากขนาดนี้?ถ้าจะตอบโดยสรุปคือ…
การรักษาการชุบชีวิตให้เป็นอมตะต่อขบวนการของอิมามฮุเซน(อ.)เปรียบเสมือนกับการรักษาแบบฉบับคุณค่าต่างๆของมนุษยชาติซึ่งท่านศาสดาเคยนำมาครั้นที่ท่านถูกแต่งตั้งจากอัลลอฮ์(ซบ.) ซึ่งอิมามฮุเซน(อ.)ได้นำแบบฉบับคุณค่าเหล่านี้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง.
ดังนั้นเรื่องราวของกัรบะลาเรื่องราวของอาชูรอเปรียบเสมือนสนามพลังงานเเม่เหล็กที่พร้อมจะดูดทุกๆคนให้เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในเเนวความคิดใดก็ตาม เขาจะเลือกค่ายความคิดตะวันออกหรือตะวันตก แต่ถ้าหากเขามีสัญชาตญาณที่สะอาดบริสุทธิ์ เขาจะไหลบ่าเข้าสู่สนามพลังงานอิมามฮุเซน(อ.)อย่างเเน่นอน บางคนจะไหลบ่าเข้าสู่สนามพลังงานนี้ด้วยกับ จริยธรรม ด้วยศาสนาและจะนำพาไปสู่การรู้จักอิสลามอันบริสุทธิ์.
อิมามฮุเซน(อ.)เป็นที่ยอมรับของทุกนิกาย อะไรคือข้อยืนยัน!?จากคำพูดของผู้รู้ นักไวยกรณ์ นักเขียนตำรับตำราอย่างมากและเป็นมุฟตีสูงสุดของเลบานอน เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา นามว่ามัรฮูมอับดุลลอฮ์อุษมาน อะลาอิลีย์ เป็นซุนหนี่ เเละเป็นผู้รู้สูงสุดของประเทศเลบานอน ท่านได้เขียนตำรับตำราอย่างมากมายและท่านได้เขียนถึงอิมามฮุเซน(อ.)ถึง 3เล่ม เล่มละหลายร้อยหน้า หนึ่งในคำพูดของท่านที่เขียนไว้ในหนังสือ “โอ้พี่น้องของฉันเอ๋ย! ภายหลังจากที่ฉันอะลาอิลีย์ ได้แสวงหาความรู้ถึง 70 ปี ขอสรุปให้พวกท่านทั้งหลายฟังว่า ถ้าต้องการปฏิรูปอิสลาม ถ้าต้องการเเก้ไขปรับปรุงอุมมัตอิสลาม ถ้าท่านต้องการขจัดปัญหาทางสังคมของอิสลาม ถ้าท่านต้องการแต่ไขความอยุติธรรมให้เกิดความยุติธรรม ถ้าท่านต้องการจัดระเบียบโลก ทางด้านความคิด ศีลธรรม และความยุติธรรมต่างๆแล้วบทสรุปในหนึ่งประโยคคือ พวกท่านจะต้องไปศึกษาประวัติศาสตร์ของอิมามฮุเซน(อ.) หากไม่ศึกษาชีวประวัติของอบาอับดิลลาฮิลฮุเซน(อ.)ท่านจะไม่เข้าถึงอิสลามอันบริสุทธิ์และจะไม่เข้าถึงความยุติธรรมที่เเท้จริง และท่านจะไม่สามารถที่จะต่อสู้กับการฝ่าฝืนใดๆได้”
นี่คือคำพูดของมุฟตีสูงสุดแห่งเลบานอน
อีกตัวอย่างหนึ่ง จากคำพูดของลูกชาย ดร.ยูซุฟ กัรฎอวีย์ ซึ่งในตอนนั้นดร.ยูซุฟ กัรฎอวีย์เป็นอุลาอ์ระดับสูงสุดของโลกซุนหนี่ และลูกชายของท่านคนที่ 5 ชื่ออับดุรเราะห์มาน กัรฎอวีย์ เป็นผู้ที่เฉลียวฉลาดในการเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงสงคราม 33 วัน ของฮิสบุลลอฮ์กับรัฐเถื่อน อับดุรเราะห์มาน กัรฎอวีย์ เป็นนิสิตศึกษาระดับปริญญาเอกที่มหาลัยอัลอัซฮัร ภายหลังจากชัยชนะ 33 วัน ของขบวนการฮิสบุลลอฮ์ท่านได้กล่าวว่า “การต่อสู้ของขบวนการเล็กๆ และมีชัยเหนือกองทัพติดอันดับโลกไม่สามารถจะทำได้ เว้นเเต่ขบวนการนั้นจะต้องถอดแบบมาจากขบวนการต่อสู้ของอิมามฮุเซน(อ.)ในวันอาชูรออย่างเเน่นอน..” และก่อนที่ซัยยิดฮะซันนัศรุลลอฮ์จะขึ้นปราศรัยหลังจากที่ได้รับชัยชนะ อับดุรเราะห์มาน ฆัรฎอวีย์ ได้อ่านบทกวีหนึ่ง ซึ่งมีใจความว่า : ก่อนหน้านี้เกียรติยศศักดิ์ศรีของโลกอิสลามจะมาจากประตูของอิยิปผ่านหน้าต่างของอัซฮัร แต่ฉันขอประกาศในวันนี้ว่า เกียรติยศศักดิ์ศรีต่างๆที่มายังโลกอิสลามจะผ่านประตูของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านและจากประตูของกรุงเตะห์รานเท่านั้น.หรือจะเป็นตัวอย่างของพี่น้องปาเลสตน์ ที่ในอดีต ปี 1979 ณ ตอนนั้นพี่น้องปาเลสตน์ถูกกดขี่อย่างสาหัสเเละไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ที่จะต่อกรกับศัตรูเลย เมื่อชะตากรรมในตอนนั้นเป็นแบบนี้จึงทำให้ชาติอาหรับที่ทรยศในตะวันออกกลางวันนั้นบอกกับนักรบชาวปาเลสไตน์ว่า “หากพวกท่านต้องการสร้างชื่อให้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเจ้าออกไปฆ่าตัวตายสะเถอะ และชื่อของพวกเจ้าจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนักปฏิวัติต่อสู้เพื่อปลดปล่อยปาเลสไตน์” เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนี้? เพราะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของรัฐเถื่อน เห็นถึงความไร้ซึ่งอำนาจของชาวฉนวนกาซ่า แต่นี่คือวันนั้น
แต่วันนี้เหตุการณ์พลิก ขบวนการต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์ได้สร้างวิกฤติที่เลวร้ายที่สุดให้กับไซออนิสต์ด้วยกับการยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยของพวกเขา ถึงแม้จะต้องเสียทารกน้อยวัย6เดือนก็ตาม พวกเขายืนหยัดต่อสู้ไม่ยอมเเพ้เพราะอะไร? หนึ่งในคำพูดของผู้นำขบวนการฮามาสในวันนี้ ที่เขาเองนั้นถูกรัฐเถื่อนตัดสินจองจำ 140ปี แต่ได้รับการปล่อยตัวผ่านการเจรจาแลกเปลี่ยนนักโทษ ผู้นำสูงสุดของฮามาสในตอนนี้คือ ยะห์ยา ซินวาร ท่านได้กล่าวว่า “การที่เรายืนหยัดต่อสู้ได้ในวันนี้ เราได้ถอดบทเรียนจากโศกนาฏกรรมแห่งกัรบะลา”
ฉนั้นในวันนี้ขบวนการของอิมามฮุเซน(อ.)ทำอะไร?การเดินเท้าอัรบะอีนฮุซัยนีเกิดขึ้นมาเเล้วเพื่อสิ่งใด?ตอบ คือเราต้องการจะส่งออกวัฒนธรรมของฮูซัยนีไปยังประชาชาติบนโลกนี้ ปัจจัยที่ดีที่สุด คือ การเดินขบวนเเสดงพลังในช่วงอัรบะอีน ประชาชนหลายล้านคนออกไปเดิน เพื่อเป็นกระบอกเสียงหนึ่งที่จะส่งออกวัฒนธรรมของฮูซัยนีไปยังทุกประชาชาติ ไปยังทุกศาสนา เพื่อให้ได้เป็นที่ประจักษ์
ดังนั้น จงให้ความสำคัญกับขบวนการของอิมามฮุเซน(อ.)เข้าไปยังสนามพลังงานแม่เหล็กของอิมามฮุเซน(อ.)ให้ได้ เพราะเป้าหมายของการที่อิมามฮุเซน(อ.)ลุกขึ้นสู้ในวันนั้น เพื่อที่จะปฏิวัติสังคม เเละรักษาศาสนาของท่านศาสดาที่เเท้จริง ให้มาถึงยุคสุดท้าย เพื่อปูฐานให้กับการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี(อญ.) และปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการถอดเเบบเเผนนี้.
__________________________________________
ส่วนหนึ่งจากคำบรรยาย : ท่านอยาตุ้ลลอฮ์ญะวาด มัรวี
แปลไทยโดย : ท่านฮุจญตุ้ลอิสลามวัลมุสลิมีนท่านซัยยิดมุบาร็อค ฮูซัยนี
และขอขอบคุณท่านฮุจญตุ้ลอิสลามวัลมุสลิมีนท่านซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ที่ได้เชื้อเชิญ ท่านอยาตุ้ลลอฮ์มัรวี และคณะฯ มายังประเทศไทยในครั้งนี้เพื่อเป็นบะระกัตต่อพวกเราชาวไทยทุกๆคน.
(ณ มัสยิดรูฮุลลอฮ์ จ.นครศรีธรรมราช)
