ประตูแห่งปรารถนา (ตอนที่ 2)

793

กาซีเมนเป็นเมืองศูนย์รวมของมุสลิมทุกมัศฮับ

ณ สุสานของท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) บรรดาประชาชาติอิสลามโดยเฉพาะชาวอิรักทั้งพี่น้อง อะฮฺลิสซุนนะฮฺและพี่น้องชีอะฮฺต่างไปเยี่ยมคาราวะตะวัซซุลในการทูลขอดุอาอฺจากอัลลอฮฺ(ซบ) อย่างเนืองแน่นตลอดมา กาซีมียะฮฺเป็นเมืองศูนย์รวมของมุสลิมทุกมัศฮับ เมืองนี้ชื่อทั่วไปว่ากาซีเมน พี่น้องชีอะฮฺ และพี่น้องอะฮฺลิสซุนนะฮฺได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข

ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอิรักพอจะอนุมานโดยสังเขปได้ดังนี้ เมืองกัรฺบาลาและนะญัฟมีแต่เฉพาะพี่น้องชีอะฮฺ ซามัรรออฺจะมีพี่น้องอะฮฺลิสซุนนะฮฺมากกว่า พี่น้องชีอะฮฺประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกาซีมียะฮฺจำนวนประชากรทั้งสองฝ่าย ไล่เลี่ยกัน กาซีมียะฮฺห่างจากแบกแดดประมาณ 40 กิโลเมตร แต่ด้วยความเป็น “บาบุลฮาวาอิจญฺ” ของท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) ความห่างไกลจากสุสานของท่านจึงไม่ได้เป็นอุปสรรคในการไปเยี่ยมคาราวะแต่ประการใด

ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าเคยไปเยี่ยมคาราวะที่สุสานสังเกตเห็นพี่น้องอะฮฺลิสซุนนะฮฺยืนนมาซกอดอกอยู่ในสุสานนั้นเป็นจำนวนมากอยู่ ครั้งต่อมาจำนวนลดน้อยลงตามลำดับ เหตุผลประการสำคัญคือพวกวะฮาบีได้พยายามสร้างสถานการณ์ทุกวิถีทางที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของวงศ์วานท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)!!!! เพราะถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เป็นไปตามวิถีทางธรรมชาติความยิ่งใหญ่ของบรรดาอิมาม ก็จะเป็นการซ้ำเติมตราบาปที่พวกตนได้เคยกระทำไว้กับพี่น้องมุสลิม ความคิดวิตถารและอุตริกรรมที่พวกตนเคยก่อกับคุณงามความดีอันหาที่สุดมิได้นั้นช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

ที่สุสานของท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) วันชะฮาดัตของท่านจะมีพี่น้องมุสลิมไปเยี่ยมคาราวะเพื่อร่วมสรรเสริญสดุดีแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณกันอย่างเนืองแน่นทุกปี อาจจะมีจำนวนน้อยกว่าวันชะฮาดัตของท่านอิมามฮุเซน(อ) อยู่บ้าง ทั้งนี้เพราะพี่น้องอะฮฺลิสซุนนะฮฺต่างก็เคารพเทิดทูนความเป็นบาบุลฮาวาอิจญฺ ของท่านนั่นเอง!!!!!

การที่พี่น้องมุสลิมมารวมตัวกันที่กาซีมียะฮฺสุสานของท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) เป็นล้านๆ คน ทุกปีนั้น อาจจะเป็นผลจากการปฏิวัติสาธารณรัฐอิสลามในอิหร่าน และการที่ซัดดัม (ละนะตุลลอฮฺ) ถูกโค่นล้ม พี่น้องชีอะฮฺจึงมีสิทธิเสรีภาพบนแผ่นดินนี้มากขึ้น ได้มีบทบาทอำนาจในการปรับปรุงพัฒนาสุสานให้สมกับความเป็น “บาบุลฮาวาอิจญฺ” ของท่านอิมามมูซา กาซิม(อ)

ปีนี้มุสลิมจำนวนล้านๆ คนได้เดินทางจากทุกสารทิศของอิรักแม้แต่กระทั่ง พี่น้องอะฮฺลิสซุนนะฮฺ จนกระทั่งเป็นที่ตื่นตระหนกของพวกวะฮาบี พวกวะฮาบีได้พยายามสร้างสถานการณ์ร้ายทุกรูปแบบ ไม่เคยคำนึงว่าชีวิตและทรัพย์สินของ พี่น้องมุสลิมผู้บริสุทธิ์ถูกทำลายไปเพียงแต่เพื่อสนองตัณหาความอคติส่วนตนเป็นที่ตั้ง

ท่านอิมามมูซา กาซิม(อ)คือใคร?

มีคำถามว่า ท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) เป็นใคร?? ทำไมวันที่ 25 เดือน รอญับของทุกๆ ปี คนมุสลิมจำนวนล้านๆ คนจึงไปรวมตัวกันที่นั่นด้วยเหตุผลใด??

คำตอบในเรื่องนี้สำหรับพี่น้องมุสลิมผู้ศรัทธาเป็นเรื่องง่ายเพราะทุกคนจะตอบตรงกันว่าท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) คือ บาบุลฮาวาอิจญฺของพวกเขา…. คือแบบอย่างแห่งหนทางอิสลามอันบริสุทธิ์ของพวกเขา….. คือวงศ์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) ของพวกเขา ความรักความศรัทธาอันเปี่ยมล้นของพวกเขาจึงเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ อันเป็นพระประสงค์แห่งพระองค์อัลลอฮฺ(ซบ) นั้นด้วย ในทางตรงกันข้ามคำตอบของพวกวะฮาบีก็คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับทุกๆ คำตอบของผู้ศรัทธาดั่งกล่าวมาแล้วข้างต้น การก่อการร้าย… การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง… การวางระเบิดสกัดกั้นทำลายผู้มาร่วมรำลึกเยี่ยมเยียนคาราวะสุสานของท่านจึงเกินขึ้นด้วยประการฉะนี้ ตราบาปของพวกวะฮาบีจึงเป็นมนตราแห่งซาตานกำหนด แน่นอนที่สุดพวกเขาคงคอยรับมหันตโทษที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์จากอัลลอฮฺ(ซบ) ในปรโลกอย่างไม่มีข้อสงสัย!!!!

1 (1)

พวกวะฮาบีจึงไม่มีวันที่จะปล่อยให้มุสลิมเป็นจำนวนล้านๆ คน รวมตัวกันเพื่อสรรเสริญสดุดีเกียรติคุณของบรรดาอิมาม (อ) จึงยอมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำลายกระบวนการความจงรักภักดีนี้มาตลอดระยะเวลาหลายศตวรรษที่ผ่านมา พยายามทำลายสุสานของบรรดาอิมาม(อ) และเอาลียาอฺให้หมด จะต้องไม่มีการเยี่ยมเยียนคาราวะ… จะต้องไม่มีความผูกพันระหว่างมุสลิมกับบุคคลผู้ทรงเกียรติยศยิ่งเหล่านั้นเป็นอันขาด!!!!

กมลสันดานอันชั่วช้าสามานย์ของวะฮาบี

พวกวะฮาบีพยายามหาโอกาสในการทำลายล้างและสร้างสถานการณ์ทุกรูปแบบ แต่ยังไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนในปัจจุบันนี้

เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ครั้งที่อิบนุ ตัยมียะฮ์ ปรากฏตัวในโลกอิสลามเมื่อศตวรรษที่ 7 เป็นปีที่สงครามครูเสดกำลังเข้มข้น เพราะได้ทำสงครามกันมาเป็นเวลาเกือบสองร้อยปีแล้วแต่ยังไม่สามารถโจมตีมุสลิมได้อย่างเด็ดขาด เหตุผลเพราะมุสลิมยังคงมีความเป็นเอกภาพ แต่ด้วยแนวความคิดอันวิตถารต่อหลักการอิสลามอันบริสุทธิ์พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ นานาทุกรูปแบบเพื่อให้สามารถขยายแนวความคิดของตนออกไปให้มากที่สุด ใครไม่เห็นด้วย ใครมีความคิดแตกต่างก็จะถูกตราหน้าว่ากระทำการอุตริกรรมเป็นผู้ปฏิเสธศาสนาอิสลาม…… สั่งฆ่ายึดทรัพย์พี่น้องมุสลิมบริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก ความร้าวฉานแตกแยกในสังคมมุสลิมเกิดขึ้น จนสร้างความหวาดวิตกแก่บรรดานักวิชาการและผู้นำศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ทัศนะของพวกวะฮาบีสลาฟีจึงไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะพยายามเปลี่ยนนามสกุลสักกี่ครั้ง… พยายามเปลี่ยนรูปแบบตัวเองสักกี่หน… แต่กมลสันดานอันชั่วช้าสามานย์ก็ยังคงเป็นมะเร็งร้ายกับศาสนาอิสลามไม่มีวันสิ้นสุด!!!!

สมัย อิบนิ ตัยมียะฮฺ ก็เคยออกคำวินิจฉัยว่า “ใครมีความคิดไม่ตรงกับพวกตนสามารถสังหารและยึดทรัพย์สินของพวกเขาได้ทันที” แต่โดยที่ไม่มีอำนาจรัฐจึงยังไม่สามารถทำตามคำวินิจฉัยนั้นได้ ถึงกระนั้นความแตกแยกในระหว่างประชาชาติอิสลาม กองทัพอิสลามก็พ่ายแพ้สงครามครูเสดในที่สุด

การก่อการร้ายและสร้างสถานการณ์รุนแรงของพวกวะฮาบีนั้นไม่เคยคำนึงว่าจะสร้างความสูญเสียให้มุสลิมผู้บริสุทธิ์นั้นเท่าใด ขอเพียงแต่สนองตัณหาอันชั่วร้ายของตนได้ วะฮาบีก็ไม่เคยละเว้นนครมะดีนะฮฺสถานที่กำเนิดของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เหตุการณ์รุนแรงในกรุงริญาด เมืองญิดดะฮฺ แม้แต่กระทั่งนครมักกะฮฺพวกวะฮาบีก็ไม่เคยเว้น พวกเขาเป็นมุสลิมประเภทไหนกันแน่!!!!

ผลงานอันชั่วร้ายชิ้นโบแดงของพวกวะฮาบี

มุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวาฮาบ เป็นที่รู้จักกันในช่วงประมาณ ฮ.ศ. 1200 เป็นยุคของนักล่าอาณานิคมเข้าสู่โลกอิสลาม… ฝรั่งเศสบุกแอฟริกาเหนือ… อังกฤษบุกตะวันออกกลาง… อิตาลีบุกโจมตีทางใต้ของแอฟริกาเหนือ ตอนแรกได้รับการต่อต้านอย่างแข็งขันจากพี่น้องมุสลิมจนไม่มีกองทัพใดทำลายล้างพวกเขาได้ดังที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้มีวัจนะเอาไว้ว่า “จะไม่มีสิ่งใดพิชิตอิสลามได้ แต่ถ้า เมื่อไหร่ที่มุสลิมทะเลาะเบาะแว้งแตกความสามัคคีกันเองก็จะพบกับความย่อยยับอัปราในที่สุด”

ครั้งนั้นอาณาจักรออตโตมันเติร์กหรือราชวงศ์อุศมานียะหฺเป็นอาณาจักรที่เข้มแข็งได้ปกครองแผ่นดินอิสลามเป็นจำนวนมากอันได้แก่ ประเทศปากอ่าวอาหรับเกือบทั้งหมด คือซาอุดิอาระเบียในปัจจุบัน.. บาห์เรน… กาตาร์… และคูเวต ซึ่งประเทศเหล่านี้ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เคยเรียกว่าแผ่นดิน “ฮิญาซ” อาณาจักรอุศมานียะหฺหรือออตโตมานเติร์กได้ต่อสู้กับนักล่าอาณานิคมอย่างแข่งขันมาตลอด จนกระทั่งกองทัพวะฮาบีปรากฏขึ้นในแผ่นดินอิสลาม ด้วยคำขวัญที่ปลุกระดมให้เกิดความเจ็บแค้นในระหว่างชาวอาหรับว่าต้องล้มอาณาจักรอุศมานียะหฺ ออตโตมันเติร์กให้ได้ เติร์กไม่มีสิทธิ์ที่จะปกครองอาหรับ ความโกลาหลเกิดขึ้นไปทั่วทุกหย่อมหญ้า แทนที่จะปลุกระดมให้กองกำลังในฮิญาซร่วมต่อสู้กับนักล่าอาณานิคมกลับปลุกระดมให้ต่อสู้กับมุสลิมด้วยกันเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาณาจักรออตโตมานเติร์ก วะฮาบีปฏิเสธสัญลักษณ์รูปดาวเดือนบอกว่าพวกเติร์กไม่ใช่มุสลิม การต่อสู้ทำให้เกิดความอ่อนแอทั้งสองฝ่าย ในที่สุดอาณาจักรออตโตมานเติร์กหรืออุศมานียะหฺก็ล่มสลาย แผ่นดินอิสลามก็ถูกย่อยสลายเป็นส่วนๆ เกิดเป็นประเทศใหม่ขึ้นมาหลายประเทศ จึงเป็นผลงานอันชั่วร้ายชิ้นโบแดงของพวกวะฮาบีอย่างแท้จริง


777

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปาฐกถา เนื่องในวันคล้าย วันชะฮาดัต ท่านอิมาม มูซา กาซิม(อ)

(บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี)……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ติดตามอ่านต่อ ประตูแห่งปรารถนา (ตอนที่ 3)