วะฮาบีคือเครื่องมือของนักล่าอาณานิคม
สิ่งที่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียปฏิเสธไม่ได้เลย คือ ความผิดพลาดจะโดยจงใจหรือไม่ก็ตามในการรื้อถอนทำลายโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของอิสลามตั้งแต่ครั้งประวัติศาสตร์ แนวความคิดที่วะฮาบี สั่งสอนอบรมได้บั่นทอนวิถีชีวิตของมุสลิมส่วนหนึ่งที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ พวกเขาได้ส่งนักวิชาการที่ผ่านการอบรมเข้มข้นไปสั่งสอนเผยแพร่ให้กับนักศึกษาในนครมะดีนะฮฺหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเครือหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศปากีสถาน ทำให้กระบวนการไซออนิสต์ไม่ว่าจะในอเมริกาหรืออังกฤษหรือประเทศใดๆ ในโลกปลื้มปิติเป็นที่สุด เพราะการทำลายอิสลามอันบริสุทธิ์นั้นควรจะให้เกิดขึ้นแต่เนื้อในตน วะฮาบีจึงเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดของนักล่าอาณานิคมในการทำลายล้างอิสลาม!!!!
กลวิธีอันสามานย์ของนักล่าอาณานิคม
ท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) ใช้ชีวิตอยู่ในกาซิเมนจนกระทั่งเป็นชะฮีดแล้วได้ถูกฝังอยู่ในสุสานของท่าน ที่นี่กลายเป็นเป้าหมายหลักในการทำลายล้างที่สำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่งของกระบวนการวะฮาบี การที่พี่น้องมุสลิมที่มีจุดยืนในความเป็น ผู้นับถือศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์มารวมตัวกันเป็นจำนวนหลายล้านคนนั้น ย่อมไม่เป็นผลดีต่อวะฮาบีอยู่แล้ว การสร้างสถานการณ์และก่อการร้ายทุกรูปแบบจึงดำเนินไปอย่างเข้มข้น ประจวบเหมาะกับในกาซิเมนไม่เพียงมีแต่พี่น้องชีอะฮฺเท่านั้นยังมีพี่น้องอะฮฺลิสซุนนะฮฺไปร่วมไว้อาลัยเพื่อเยี่ยมเยียนคาราวะ… สรรเสริญสดุดี… แสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณกันเป็นจำนวนมาก เปิดโอกาสให้วะฮาบีแทรกตัว เข้าไปได้ง่ายขึ้น ความโฉดชั่วสามานย์และความอาฆาตพยาบาทในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นอย่างไร ปัจจุบันยิ่งเพิ่มความรุนแรงเป็นทวีคูณ!!!!! การใช้ยาพิษผสมในอาหารและน้ำดื่ม… การวางระเบิด…จึงถูกนำมาใช้ วะฮาบีซึ่งไม่มีความเกรงกลัวและละอายต่อบาปอยู่แล้วจึงก่อการได้ค่อนข้างจะง่ายดาย “มือถือสากปากถือศีล” ของพวกเขาได้เข่นฆ่าสังหารมุสลิมผู้บริสุทธิ์วันแล้ววันเล่าอย่างไม่รู้จักสิ้นสุด เขากวาดล้างเข่นฆ่าบีฑาหรือกระทำการทุกอย่างให้มุสลิมอยู่ในอาณาจักรแห่งความกลัวของพวกเขาให้ได้
วะฮาบีโดยความร่วมมือกับรัฐบาลซาอุดิอาระเบียผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าทางการสื่อสารเทคโนโลยีของมหาอำนาจตะวันตก เผยแพร่ข่าวสารอันเป็นเท็จผ่านการตัดต่อโดยกลวิธีอันสามานย์ของนักล่าอาณานิคม เผยแพร่ไปทั่วทุกประเทศที่อยู่ในเขตอิทธิพลของตนทุกเมื่อ เชื่อว่าวันที่น่าอัปยศที่สุดถ้าหากประชาชาติอิสลามประเทศใดรู้เท่าทันความคิดที่ชั่วร้ายนี้ก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นมุสลิมหัวรุนแรง หนักกว่านั้นก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไปเลยทีเดียว!!!!
ในความมืดแห่งอวิชชาอย่างนี้เรายังพอมีที่หวังจากแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อยู่บ้าง นั่นคือการตะวัซซุลท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) และวงศ์วานของท่าน เพื่อทูลขอพรอันประเสริฐจากพระองค์อัลลอฮฺ(ซบ) หวังว่าจะทรงตอบรับพรนั้น ไม่วันนี้ก็วันหน้า ไม่เดือนนี้ก็เดือนหน้า ไม่ปีนี้ก็ปีหน้า และความหวังจากการทูล ขอพรนั้นไม่มีวันที่ข้าพระองค์ทั้งหลายจะสิ้นหวังในพระเมตตากรุณาแห่งพระองค์เลย ข้าพระองค์มั่นใจเสมอว่า พระเมตตาที่เปี่ยมด้วยการุณนั้นจะทรงอำนวยพรแด่ข้าพระองค์ ถึงแม้อาจจะมิทันในโลกนี้ก็ต้องเป็นโลกหน้า โลกแห่งนิรันดร์กาล ข้าพระองค์จะรอคอยพระเมตตานั้น อย่างมิรู้จักสิ้นสุดชั่วนิจนิรันดร์
ขอท่านอิมามมูซา กาซิม(อ) โปรดเป็นสื่อสัมพันธ์ในการทูลขอพรนี้ด้วยเทิด เพราะปวงบ่าวทั้งหลายมีความมั่นใจแล้วว่า ท่านเป็นผู้ทรงถูกมอบหมาย ให้เป็นผู้สื่อสัมพันธ์พาปวงบ่าวทั้งหลายเข้าทูลขอพรอันประเสริจยิ่งนั้น สมดั่งสมัญญานามท่าน คือ “ประตูแห่งปรารถนาอย่างแท้จริง”
ถอดความและเรียบเรียงโดย อับดุลกะรีม ณ สายธาร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปาฐกถา เนื่องในวันคล้าย วันชะฮาดัต ท่านอิมาม มูซา กาซิม(อ)
(บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี)……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..