พวกเราคือประชาชาติในยุคสุดท้าย ยุคแห่งการฟิตนะฮฺ เป็นฟิตนะฮฺที่ร้ายแรง ยุคนี้ผู้ศรัทธาจะถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งจะเหลือแต่ผู้ศรัทธาที่แท้จริง ส่วนผู้ที่ไม่มีความศรัทธาที่สมบูรณ์แท้จริงนั้น ก็ไม่อาจยืนหยัดในหลักการศาสนาของเขาได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์เช่นเดียวกัน การถูกทดสอบที่สำคัญยิ่งนั้นคือการยอมรับระบอบการชี้นำ ก่อนท่านอิมามมะฮฺดี (อ) จะปรากฏตัว
ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับอิสลามของยุคสมัยประชาชาติมุสลิม มีความจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจให้ละเอียด ลึกซึ้ง เคยมีการ อัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน หลายๆ โองการ ที่แสดงกล่าวถึงความสำคัญระหว่างอิหร่านกับอิสลาม ในหลายๆมิติไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสเป็นรหัสยะว่า ประชาชาติเดียวที่สามารถพิชิต ฟิตนะฮฺที่ร้ายแรงที่สุดของมวลมนุษยชาติ คือ ฟิตนะฮฺของ บนีอิสรออีล และยิวไซออนิสต์ ประชาชาตินั้นคือประชาชาติชาวอิหร่านนั่นเอง!!!
จากวจนะของท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซล) และบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ (อ)ได้ถูกร้อยเรียงไว้อย่างสมบูรณ์ชัดเจนว่าประชาชาติอิหร่านจะมีบทบาทสำคัญในการพิทักษ์รักษาอัลอิสลาม อันบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าไว้ได้
ประชาชาติอิสลามที่เป็นผู้ศรัทธาจึงมีความเข้าใจในบทบาทของประชาชาติอิหร่านเป็นอย่างดี เพราะประชาชาตินี้ พระมหาคัมภีร์ อัลกุรอานและวจนะต่างๆของบรรดาอะฮฺฺลุลบัยตฺ(อ) ได้ยืนยันไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซล) ได้มีวจนะที่ชี้ให้เห็นถึงความศรัทธาและองค์ความรู้ของประชาชาติอิหร่านคือท่านซัลมาน ฟารฺซี ที่เรียกฮะดิษนี้ว่าฮะดิษดาวลูกไก่
องค์ความรู้และความศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้เพราะหากขาดอย่างหนึ่งอย่างใดแล้วความวิบัติก็จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ชาติอย่างแน่นอน เพราะมีแต่ความศรัทธาแต่ขาดองค์ความรู้ก็ไม่สามารถชี้นำใครได้ เช่นเดียวกัน มีความรู้แต่ไม่มีความศรัทธาก็หาใช่ทางนำที่สมบูรณ์ไม่ ฮะดิษ หนึ่ง ที่บรรดาอะฮฺฺลุลบัยตฺได้อธิบายไว้ถึงความสำคัญของประชาชาตินี้คือ ฮะดิษนิลธวัช(ธงดำ) ฮะดิษนี้ปราชญ์ทั้งสองสายทั้งพี่น้องชีอะฮฺและพี่น้องซุนนี ยืนยันว่าเป็นฮะดิษ ศอฮิหฺ
นิลธวัชสัญลักษณ์ของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)
การที่ฮะดิษนี้พูดถึงเรื่องของนิลธวัช คำว่า “นิลธวัช” นั้นคือสัญลักษณ์ของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ) บางฮะดิษได้ยืนยันว่าท่านศาสดาใช้นิลธวัชเป็นธงประจำตัวของท่าน โดยเรียกชื่อว่า “อากออฺ” ฮะดิษอีกบทหนึ่งได้ยืนยันเช่นเดียวกันว่า ท่านอะมีรุลมุอฺมีนีน อิมามอะลี(อ)ก็เคยใช้นิลธวัช ในสงครามญะมัล ทั้งสองฮะดิษนี้ต่างกล่าวถึงบริบทความสำคัญของนิลธวัชได้เป็นอย่างดี
ท่านศาสดานั้นก็คือหนึ่งในบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺด้วย เพราะคำว่า อะฮฺลุลบัยตฺ แปลว่า คนในครอบครัวของศาสดา اهل بيت النبی แต่คำที่สมบูรณ์แบบจริงๆก็คือ คนในครอบครัวแห่งนะบูวัต اهل بيت النبوة สมาชิกในครอบครัวของท่านศาสดานั้นมีจำนวนห้าท่าน ดังนี้ คือ นบีมูฮัมหมัด(ซล) ท่านอิมามอะลี(อ) ท่านหญิงฟาติมะฮฺ (อ) ท่านอิมามฮาซัน(อ) ท่านอิมามฮูเซน(อ)
เมื่อเรากล่าวว่านิลธวัช คือสัญลักษณ์ของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ) ที่มีท่านศาสดาเป็นประมุขของสมาชิกในครอบครัว เหตุผลที่ สีดำถูกเลือกเป็นสัญลักษณ์นั้น เพราะศาสนาอิสลามที่ท่านศาสดาเป็นทางนำนั้นมีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงความวิปโยคสุดแสนรันทดต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งหลายหน สีดำจึงแทนความหมายแห่งความเศร้าสลดวิปโยคนั่นเอง……..
คำว่า “ธง” มิได้มีความหมายแค่เป็นเพียงผืนผ้าเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงอุดมการณ์ของผู้ใช้ธงนิลธวัชนั้นด้วย พี่น้องคงได้ยินคำว่า “ชักธงรบ” มาบ้างแล้ว นั่นหมายความว่าประกาศยืนหยัดต่อสู้ทั้งในสมรภูมิรบและในการต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวด้วย ดังนั้นในวันนี้หากมีใครชูธงดำขึ้นมาแสดงว่าเขาสืบทอดอุดมการณ์ตามเจตนารมณ์ของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)แล้ว
ท่านศาสดาได้เคยกล่าวไว้ล่วงหน้าทั้งในยุคสมัยที่ท่านเป็นผู้นำและในทุกยุคทุกสมัยว่าธงดำมีความสำคัญกับประชาชาติอิหร่าน
” ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่พวกเจ้าได้เห็นธงดำ “ถูกเชิญขึ้นทางทิศตะวันออก” พวกเจ้าจง ให้เกียรติกับชาวเปอร์เซียเถิด เพราะชาวเปอร์เซียนั้น รัฐบาลของเราจะอยู่กับพวกเขา พวกเขามีภารกิจที่สำคัญคือ การพิทักษ์ศาสนาอิสลามอัน บริสุทธิ์ !!! ”
คำว่า ทิศตะวันออก จากฮะดิษดังกล่าว ก็คือชาวเปอร์เซีย นั้นเอง พวกวะฮาบี พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงจากฮะดิษนี้ ว่าแท้จริงแล้วทิศตะวันออกคือแผ่นดินเกิดของอับดุลวะฮาบ โดยพยายามหาฮะดิษที่ไม่มีคำว่า “เปอร์เซีย” มาอรรถาธิบาย แต่ที่ท่านศาสดากล่าวนั้น เมื่อมีธงดำขึ้นทางทิศตะวันออก ให้เกียรติกับชาวเปอร์เซีย เนื่องจากรัฐบาลของเรา (หมายถึง อะฮฺลุลบัยตฺ) อยู่กับพวกเขา หมายความว่า รัฐบาลอิสลามแห่ง อะฮฺลุลบัยตฺ(อ) จะเกิดขึ้นที่นั่น!!!
บางฮะดิษ ท่านศาสดา เคยกล่าวต่างกรรมต่างวาระ เช่นเคยกล่าวว่า “เมื่อใดก็ตามที่นิลธวัชปรากฏขึ้นก็จงให้เกียรติกับชาวเปอร์เซีย” เนื่องจากรัฐบาลของเราอยู่กับพวกเขา ฮะดิษ บทนี้ตัดคำว่าทิศตะวันออก ออกไป จึงไม่จำเป็นต้องตีความคำว่า ทิศตะวันออกกันอีก จากฮะดิษ ทั้งสองที่กล่าวมาเบื้องต้น พอสามารถยืนยันได้ว่ารัฐบาลอิสลามของ อะฮฺลุลบัยตฺ (อ) อยู่กับชาวเปอร์เซีย โดยได้อธิบายคำว่า(รัฐบาลของเรา) ในฮะดิษอีกบทหนึ่งท่านศาสดาได้กล่าวว่าเมื่อใดก็ตามที่พวกเจ้าได้เห็นนิลธวัช ถูกเชิญขึ้นมาจากคูรอซาน (อาณาจักรเปอร์เซีย) ท่านศาสดาได้กล่าวถึง รหัสยะแห่งนิลธวัช โดยทำให้ความหมายของคำว่า “ทิศตะวันออก” แคบลงไป “สู่ชาวเปอร์เซีย” และแคบลงไปกว่านั้น “สู่แผ่นดินแห่งคูรอซาน” ท่านกล่าวย้ำว่า เมื่อใดก็ตามพวกเจ้าเห็นนิลธวัชถูกเชิญขึ้นจากคูรอซาน พวกเจ้าจงรีบไปที่นั่นโดยด่วน เท่ากับท่านศาสดาได้กำหนดภารกิจที่สองว่าประชาชาติอิสลามกับประชาติอิหร่านมีความสัมพันธ์กันอย่างสอดคล้อง!!!
มวลมุสลิมกับประชาชาติอิหร่านจึงมีความสัมพันธ์ทั้งในมิติแห่งกายภาพและมิติแห่งจิตวิญญาณอย่างแยกจากกันไม่ได้ ท่านศาสดาจึงได้มอบหมายภารกิจนี้แก่มวลมนุษย์ชาติ ที่ว่า “จงไปที่นั่น” มิได้หมายถึง มิติทางกายภาพที่เป็นรูปธรรมเป็นอย่างเดียว ว่าการไปหมายถึงการเดินทาง แต่มิติแห่งจิตวิญญาณหมายถึง“การร่วมอุดมการณ์” ประโยคต่อมาใน ฮะดิษ ได้อธิบายคำว่า فأن فيها خليفة الله ให้ละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปาฐกถา เนื่องในวันคล้าย “ครบรอบ 36 ปี แห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน”
(บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี)……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ติดตามอ่านต่อ ปฏิสัมพันธ์แห่งอุดมการณ์ (ตอนที่ 2)