ศัตรูทุกยุคทุกสมัยจ้องทำลายท่านนบี(ศ)
บรรดาศัตรูกำลังกล่าวสิ่งนี้ คือ ต้องการทำลายล้างท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)และการทำลายอันนี้มัน มีมาก่อนหน้าที่ท่านจะถือกำเนิดด้วยซ้ำ ( เหมือนกับการสรรเสริญ ศอลาวาต ก็มีมาก่อนหน้าที่ท่านจะมาถือกำเนิดในโลกนี้) การตามล้างตามฆ่าไม่ให้ศาสดาองค์นี้ลงมาจุติ ในตรงนี้ก็มีมาก่อนพี่น้อง!!!! ในประวัติศาสตร์ได้บันทึก ถึงการเข้ามาอพยพของยะฮูด….. ของชาวยิวและชาวนัศรอนี ทั้งชาวยิวและชาวคริสต์ที่อพยพเข้ามาอยู่ในเส้นทางของแผ่นดินฮิญาซ (ระหว่างเส้นทางมะดีนะฮ์ –มักกะฮ์ และมะดีนะฮ์-ซีเรีย ซึ่งพบแต่เดิมนั้นอยู่ทางดินแดง “คานาอัน” ไปทางปาเลสไตน์) โดยได้อพยพเข้ามานั้นเพราะรู้ถึงคำพยากรณ์ว่า จะมีศาสดาองค์สุดท้ายจะเกิดขึ้นมา…… ทุกๆศาสนาซึ่งมีมาก่อนหน้านี้ ก็จะต้องสิ้นสุดลง!!!!!! รู้ถึงสัญลักษณ์….. รู้ถึงรายละเอียด….
ในบรรดาบุคคลที่เข้ามาอพยพเข้ามาอยู่ในแผ่นดินฮิญาซ มีอยู่ 2 พวก คือ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม แบ่งเป็น 2 เป้าหมายด้วยกัน
1.เข้ามาเพื่อที่จะดับแสง “นูร”อันนี้
2. อีกพวกหนึ่งเข้ามาเพื่อที่จะรอรับสาสน์… และยอมรับในศาสดาองค์นี้ ไม่ว่ามนุษย์มีการสร้างป้อมปราการตั้งแต่แผ่นดินซีเรีย แผ่นดินชามจนถึงเมืองมะดีนะฮ์ ซึ่งจะมีป้อมปราการต่างๆของพวกยะฮูดีเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะรอฆ่าศาสดาองค์นี้ รู้ถึงรายละเอียดว่า ศาสดาองค์นี้จะมาจากเผ่ากุเรชและจะมาจากเชื้อสายของใคร?? อยู่ในไขสันหลังของใคร?? สืบเชื้อสายมาจากผู้ใด?? มีการตามล้างตามล่า มีการลอบสังหารเชื้อสายต้นตระกูลของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ.)อย่างต่อเนื่อง ….เพราะต้องการที่จะดับแสงอันนี้ เพราะไม่ให้นูรอันนี้ปรากฏตัว นี่คือกลุ่มที่มารอคอยท่านศาสดา รู้ถึงขนาดนี้ในการที่จะมาดับแสงอันนี้ พี่น้อง!!!!! หลังจากการปรากฏตัว เราก็เห็นแล้วว่า เป็นศาสดาองค์เดียวในการเผยแผ่สาสน์ของพระองค์ที่ต้องเผชิญกับสงครามอย่างมากมาย สิบปีหลังจากที่ได้รับอนุมัติให้ทำสงคราม ในยุคสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)เกิดสงครามมากถึงแปดสิบครั้ง พี่น้อง !!!! โดยมีเป้าหมายและพยายามที่จะดับนูรอันนี้ และสิ่งนี้มันมีมาตลอดทุกยุคทุกสมัย แต่ก็มีคำสัญญาหนึ่งจากอัลลอฮฺ(ซบ)ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ได้ยืนยันในการคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องของนูรและสาสน์อันนี้ ซึ่งมีสองโองการด้วยกัน ซึ่งมันจะมีความคล้ายกัน แค่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย
โองการแรก
يُرِيدُونَ أَن يُطْفِئُوا نُورَ اللَّهِ بِأَفْوَاهِهِمْ وَيَأْبَى اللَّهُ إِلَّا أَن يُتِمَّ نُورَهُ وَلَوْ كَرِهَ الْكَافِرُونَ
“พวกเขาต้องการเพื่อจะดับแสงของอัลลอฮฺด้วยปากของพวกเขา และอัลลอฮฺนั้นไม่ทรงยินยอม นอกจากจะทรงให้แสงของพระองค์สมบูรณ์เท่านั้น และแม้ว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะชิงชังก็ตาม” (ซูเราะฮ์ อัตเตาบะฮ์ โองการที่ 32)
เขาพยายาม(ยุรีดู)เหมือนกันคือตลอดเวลา ต้องการที่จะดับนูรของอัลลอฮฺ(ซบ) นูรุลลอฮฺ นูร นั้นหมายถึงศาสดา นูรหมายถึงความศรัทธาในอิสลาม นูร หมายถึงคำสั่งสอนของอิสลาม ซึ่งบรรดาศัตรูต้องการที่จะดับแสงของพระองค์ต่างๆเหล่านี้ และนี่คือนูรของอัลลอฮฺ คำสั่งสอนในศาสนาคือนูรของอัลลอฮฺ…. สาสน์ของนบี คือนูรของอัลลอฮฺ ความศรัทธาคือนูรของอัลลอฮฺ ตัวของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ.)ก็คือนูรของอัลลอฮฺ
ในโองการนี้เลือกใช้คำว่า (อัย ยุฏ ฟิอู) ต้องการที่จะดับแสงของอัลลอฮฺ และ อัลลอฮฺ(ซบ) ก็ไม่มีวันยอมให้พวกเขาดับนูรของพระองค์ อัลลอฮฺจะไม่ยอมให้พวกเขาดับแสงของพระองค์ ในขณะที่พวกเขาพยายามจะดับแสง แต่ในขณะเดียวกันนั้น อัลลอฮฺ(ซบ) ก็ทำให้แสงอันนี้นั้นเจิดจรัสขึ้น ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้น ดังนั้นไม่มีใครสามารถที่จะดับแสงรัศมีของอัลลอฮฺ(ซบ) คำสั่งสอนของมุฮัมมัด(ศ) ศาสนาของมุฮัมมัด(ศ)ไม่มีใครสามารถที่จะดับแสงอันนี้ได้ นี่คือสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮฺ(ซบ)ยืนยันในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน แล้วสิ่งนี้มันก็เกิดขึ้นจริงพี่น้อง !!!! ในเวลาอันสั้น นบีได้เปลี่ยนแผ่นดินอันนั้นเป็นแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่…..เป็นแผ่นดินแห่งอารยะธรรม เป็นแผ่นดินวัฒนธรรมที่สูงส่งนำสู่วัฒนธรรมให้กับชาวโลก ด้วยเวลาอันสั้น นูรรัศมีส่องประกายมาถึงทั่วโลก ถึงแม้ว่าในโลกนั้นได้มีความพยายามที่จะดับแสง และหลังจากการจากไปของท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)ก็ยังมีคนที่จะดับแสงอันนั้นอีกเช่นกัน …..มีคนพยายามที่จะบิดเบือนคำสอนในศาสนาในรูปแบบต่างๆพี่น้อง!!!!! แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะนูรของมุฮัมมัด(ศ.)นั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวของท่านนบี(ศ)เพียงผู้เดียว แต่อยู่ที่บรรดาอะอิมมะฮฺ และอยู่ในบุคคลที่เป็นสาวกที่แท้จริง…. อยู่ที่บรรดาทายาทที่แท้จริงของท่าน ยุคหนึ่ง สมัยหนึ่ง….. กลุ่มแรกที่ฉายแสงอันนี้ ก็คือบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ(อ) ซึ่งมีฮะดิษกำกับและยืนยันอย่างมากมายเช่นฮะดิษ (อะนา วะอาลียุน มินนู ริน วะฮิด) “ฉันกับอะลี มาจากนูรอันเดียวกัน” (อะนา วะอะลียุน มินซะญารอตินวาฮิด)“ฉันกับอะลี มาจากต้นไม้ต้นเดียวกัน” ซึ่งฮะดิษแบบนี้มีมากมายพี่น้อง!!!!! แม้แต่ในสายรายงานของพี่น้องอะฮฺลิซซุนนะห์ก็มี ซึ่งต้องการชี้ให้เห็นถึงการเป็นนูรอันเดียวกัน และในบางครั้งก็ถูกอธิบายในรูปแบบลักษณะอื่นๆ เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้คือสิ่งเดียวกัน เช่น ฮะดิษ (ฮุเซน นุม มินนี….วะอะนา มิน ฮุเซน) “ฮุเซนมาจากฉัน และฉันมาจากฮุเซน)ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการเป็นฮากีกัตอันเดียวกันกับนูรท่านนบีมุฮัมมัด(ศ) ดังนั้นเมื่อท่านนบีมุฮัมมัด(ศ.)ได้จากไปแต่เป็นการจากไปเพียงแค่สรีระของรอซูลุลลอฮฺ(ศ)เท่านั้น แต่นูรของท่านยังคงอยู่บนโลก และไม่มีใครที่จะดับนูรอันนี้ได้!!!!! มันยังส่องประกายอยู่เสมอ มนุษย์ทำได้อาจจะเบียดบัง…. อาจจะบดบัง…. อาจจะกดดันมันเท่านั้น….. แต่พอถึงเวลาวันหนึ่งมันก็ต้องระเบิดขึ้นมา มันก็ต้องฉายแสงขึ้นมา มันก็ต้องเจิดจรัสรัศมีขึ้นมา เพื่อชี้นำมวลมนุษยชาติ และมันไม่มีใครสามารถที่จะหยุดกระแสของนูรอันนี้ได้ นั้นคือกระแสของการชี้นำมวลมนุษยชาติเข้าสู่อิสลามได้พี่น้อง….. ยิ่งวันเวลาผ่านไปความแก่กล้าของนูรอันนี้ก็ยิ่งมากขึ้น วันเวลาหนึ่ง พี่น้องลองคิดดู ว่า เมืองมักกะฮ์ เมืองมาดีนะฮ์อยู่ตรงไหน ?? เมืองไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย อยู่ที่ไหน??? แต่วันนี้นูรแห่งความศรัทธาของท่าน นบีมุฮัมมัด(ศ)……นูรแห่งความศรัทธาในศาสนาที่ท่านนำมา ในคำสั่งสอนที่ท่านนำมานั้นได้มาถึงยังแผ่นดินนี้
แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นแผ่นดินแรกของโลกก็ว่าได้ ถ้าเราจะมองทางด้านทิศตะวันออก เพราะญี่ปุ่นเป็นดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งอาทิตย์อุไท โดยเดิมนั้น ดวงอาทิตย์จะขึ้นเป็นที่แรกในโลกนี้ก็คือที่ประเทศญี่ปุ่นและในญี่ปุ่นวันนี้ เรามีมุสลิมชาวญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้น และ แสงรัศมีนี้ก็ฉายแสงถึงยัง แอฟริกา กล่าวคือแหล่งสุดท้ายที่ดวงอาทิตย์จะตก ซึ่งมองตามภูมิศาสตร์อีกมุมหนึ่ง แน่นอนในแอฟริกาคือแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ที่มีคนจำนวนมากหันเข้ารับศาสนาอิสลาม ทุกวันนี้ ที่มันเกิดเรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย ทั้งในทิศตะวันตกในยุโรป ในสวีเดน ในเยอรมัน ในเดนมาร์ก ในอิตาลี ในที่ไหนก็แล้วแต่ ที่กำลังเขียนหนังสือเล่มแล้วเหล่าในการดูหมิ่นอิสลามทั้งหมด เพราะเขากลัวกระแสคำสั่งสอนของศาสดาองค์นี้ เขาพยายามที่จะดับแสงอันนี้ คำสั่งสอนที่เป็นนูร
เหตุผลหนึ่งที่อัลลอฮฺ(ซบ)บอกว่ามันคือแสงรัศมี เพราะมันเป็นสะสาร เมื่อมนุษย์ได้สัมผัส เมื่อมนุษย์ได้เข้าใจ เมื่อมนุษย์ได้เห็นก็รู้เลยว่านี้คือสิ่งถูกต้อง !!!นี่คือสิ่งที่มวลมนุษยชาติรอคอย ดังนั้นการกระทำทุกอย่างทั้งหมดของเหล่ามาร เหล่าซาตานของศัตรูศาสนาเพื่อที่จะดับแสงอันนี้ และรูปแบบต่างๆก็เพื่อที่จะดับแสงอันนี้ เพื่อที่จะดับแสงของอัลลอฮฺ(ซบ) เพื่อจะดับแสงนี้ให้ดับลงให้ได้ จะทำทุกวิถีทาง แต่งเติมแต่งร้ายให้ท่านศาสดา ให้ร้ายคำสั่งสอนในอิสลามและวิธีการสุดท้ายคือเอาศาสนาออกไปจากการเมือง แบ่งแยกศาสนจักรกับอาณาจักรให้ออกจากกันเพราะเขารู้แล้วว่าถ้าเมื่อไรก็ตามศาสนจักรกับอาณาจักรแบ่งแยกออกจากกันเมื่อไร ศาสนาไม่อาจมีบทบาท มีอำนาจอย่างแท้จริงขึ้นมาในโลกนี้
จริงๆแล้วถ้าเราย้อนหลัง จะพบเห็นว่า เป็นเวลานับพันๆปีที่ศาสนจักรกับอาณาจักรถูกแยกออกจากกัน เป้าหมายก็คือเพื่อที่จะดับแสงของศาสนา และศาสนาที่เขากลัวมากที่สุดที่จะมามีอำนาจในอาณาจักรก็คือศาสนาอิสลาม ก็คือคำสั่งสอนที่ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)นำมา …… ศาสนาอื่นๆนั้นไม่ได้ถูกเตรียมมาเพื่อที่จะมาครองโลก บรรดาศัตรูศาสนารู้ในสิ่งนี้ เราบางคนอาจจะยังไม่รู้จักศาสนาของเราได้ดี เท่ากับศัตรูของศาสนาที่เขารู้จักศาสนาของเรา เมื่อเขารู้ดังนั้นก็ได้ทำทุกวิถีทางอย่างมากมายหลายวิธี ซึ่งจะเจาะลงในละเอียดไม่ได้เพราะเวลามีเพียงน้อยนิดพี่น้อง ดังนั้นเป้าหมายของศัตรูก็คือต้องการทำลายบุคลิกภาพของมุฮัมมัด(ศ.)ในรูปแบบต่างๆที่เขาเติมแต่งขึ้นมา ทำให้ศาสดาต้องกลายเป็นโจรแห่งทะเลทราย
ทำไม่สำเร็จในครั้งนั้น แต่ในครั้งนี้ ก็ทำให้เป็นบุคคลธรรมดาให้ได้ ทำอย่างไรก็แล้แต่ที่ทำให้มวลมุสลิมมองท่านนบีเป็นคนธรรมดา!!!!! ทำอะไรก็ได้ ให้มุสลิมลืมศาสดาองค์นี้ ….. ลืมแบบฉบับ……ลืมวิถีชีวิต โดยเริ่มทำลายจากด้านในและทำลายจากด้านนอก ทำลายจากด้านนอกก็คือการโจมตีทางตรง ด้วยการพิมพ์หนังสือต่างๆที่เคยออกมาโจมตีมาแล้ว ทำลายจากด้านในก็คือทำให้ความสำคัญของศาสดาองค์นี้นั้นหมดไป และก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ…น่าสงสารและน่าสลดใจ อย่างยิ่งพี่น้อง …. เพราะคนที่รับภารกิจอันนี้ก็คือบรรดาพวกวะฮาบีย์ ผู้โง่เขล่าทั้งหลายที่กำลังทำอยู่ในทุกๆปีเมื่อถึงเดือนรอบีอุลเอาวัล!!!!!! แทนที่เราจะมาฟังเรื่องของท่านนบี…… แทนที่เราจะมาสรรเสริญท่านนบี….. เราจะศอลาวาตท่านนบีนั้น มวลมุสลิมเกือบทั่วทั้งโลกกลับมาถกเถียงกันว่า “งานเมาลิดุนบีจัดได้หรือจัดไม่ได้” !!!!! กลายเป็นประเด็นของการถกเถียงขึ้นมา อันที่จริงพวกวะฮาบีย์กลุ่มนี้มันทำอะไรมาเยอะแล้วพี่น้อง แต่ไม่ได้ถูกเปิดเผย การดูหมิ่นดูแคลนท่าน นบี มันมีมาตลอดทั้งจากภายใน….. มีมาตลอดหน้าประวัติศาสตร์…… เขาไม่ได้เป็นศัตรูกับงานเมาลิด แต่เขาเป็นศัตรูกับการรำลึกถึงนบี พี่น้อง !!!!! เขาพยายามทำทุกอย่างให้ลืมศาสดาองค์นี้ให้ได้ โดยอ้างว่า ศาสนาสมบูรณ์แล้ว กุรอานก็มีแล้ว แต่เมื่อท่านศาสดาองค์นี้ยังถูกรำลึกอยู่ วิถีชีวิตและการปฏิบัติในทุกเรื่องก็จะต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นท่านศาสดาองค์นี้ก็จะต้องถูกรำลึกตลอดไป…