4 เรื่องจริง วีรสตรีแห่งยุคสมัย พิสูจน์ แบบอย่างของ “ซัยหนับ” (อ.) ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน

52

เพื่อเป็นการสดุดีถึงวีรกรรมของท่านหญิงซัยหนับ บินตีอะลี (อ.) วีรสตรีอิสลาม เนื่องในวันคล้ายวันวะฟาตของท่าน ผู้เป็นแบบอย่างแห่งการเสียสละ และยืนหยัดต่อสู้กับความอธรรม ขอแสดงความเสียใจยังท่านอิมามแห่งยุคสมัย อิมามมะฮฺดี(อ) ผู้มาโปรดโลก และผู้ศรัทธาทุกท่าน

เรียบเรียงจากบทเรียน ปุจฉา-วิสัชนา ที่เกี่ยวข้องกับท่านหญิงซัยหนับ (อ.) โดยฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี: จากคำถามที่ว่า ในยุคปัจจุบันมีไหมแบบท่านหญิงซัยหนับ(อ.) คำตอบ คือ เยอะมาก มีเป็นพันๆเรื่อง วันนี้จะเล่าให้ฟังสัก 4 เรื่อง ขอเริ่มจากเรื่องเบาๆก่อน

เรื่องที่ 1

ใครรู้จักชะฮีดรอญาอีบ้าง?

ผู้เรียน: ประธานาธิบดี อิหร่านใช่ไหมครับ?

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี : ใช่ อดีตประธานาธิบดี คนที่ 2 หลังจากปฏิวัติฯ

ท่านเป็นนักต่อสู้ที่เสียสละ และมีจิตวิญญานที่สูงส่งเป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในแก้วตาดวงใจของอิมามโคมัยนี (ร.ฎ) วันหนึ่งท่านถูกจับกุมโดยตำรวจลับของชาห์ ด้วยความเป็นห่วงในภรรยา ท่านจึงได้เขียนจดหมายจากในคุก เพื่อปลอบใจภรรยาว่า…’ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องกังวล ให้เธอคิดว่าฉันไปเรียนต่อต่างประเทศ…เมื่อเรียนจบก็จะกลับมา’

ภรรยาของท่านได้ตอบจดหมายกลับมาว่า…’ฉันจะหมดห่วง หมดความกังวล และจะมีความสุขเป็นอย่างมาก ถ้ารู้ว่าท่านติดคุกอยู่ เพราะท่านรับใช้อิสลาม และแนวทางปฏิวัติของอิมามโคมัยนี(รฎ)’

เท่านี้พอพิสูจน์ได้ไหมว่า แบบอย่างของท่านหญิงซัยหนับ(อ.) ยังคงมีอยู่ในยุคนี้

*****************

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี :

เรื่องที่สอง — จำได้ไหม…เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่อิสลามวิทยาลัยกรุงเทพ

พวกเราจัดงานฉลองการปฏิวัติอิหร่าน ในงาน บุตรสาวของชะฮีดผู้นี้ได้มาร่วมงานด้วย หนึ่งในคำพูดของเธอ คือ ……

<< ฉันไม่เคยโศกเศร้า หรือเสียใจที่ได้สูญเสียบิดาอันเป็นสุดที่รักของฉัน แต่ฉันกลับมีความภาคภูมิใจมากกว่า เพราะถ้าเปรียบอิสลาม คือ ” ต้นไม้ “

ต้นไม้ต้นนี้ จะดำรงอยู่ได้ จะต้องมีเลือดของบรรดาชะฮีดหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา และเลือดของบิดาของฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น >>

เท่านี้พอพิสูจน์ได้มั้ยว่า…แบบอย่างของท่านหญิงซัยหนับ(อ.)ยังคงมีอยู่ในยุคนี้ ?

ผู้เรียน: มาชาอัลลอฮ คือ ความภาคภูมิใจ ที่สูญเสียบิดา เพื่อการปฏิวัติอิสลาม พิสูจน์แล้วครับ

*****************

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี :

เรื่องที่สาม — เรื่องนี้มีเป็นจำนวนมาก ต่างกรรมต่างวาระ ทั้งสมัยอิมามโคมัยนี(รฎ) และอิมามคาเมเนอี จะเล่าเฉพาะที่เกี่ยวกับจิตวิญญานของสตรีเท่านั้น

วันหนึ่งเราะห์บัรได้ไปเยี่ยมมารดาของชะฮีด ที่ได้สูญเสียบุตรชายถึง 4 คน ในแนวทางแห่งการปฏิวัติ… เมื่อนางได้เห็นใบหน้าของท่านผู้นำ นางได้หลั่งน้ำตา…

ท่านผู้นำได้ถามนางว่า…’เธอร้องไห้ทำไม หรือ คิดถึงลูกๆหรือ ?’ — ซึ่งในวันนั้น นางไม่เหลือบุตรชาย แม้แต่คนเดียว

นางได้ตอบท่านผู้นำว่า… ‘หามิได้ ฉันมิได้ร่ำไห้เพราะเรื่องเหล่านั้น’

ท่านผู้นำจึงถามนางว่า …’แล้วเธอร้องไห้ด้วยเรื่องอันใด?’

นางจึงตอบว่า…’ที่ฉันร้องไห้และเสียใจ ก็เพราะ ทำไมฉันไม่มีบุตรชายให้มากกว่านี้ ที่จะพลีพวกเขาเหล่านั้นอีกในแนวทางของท่าน’

ถือว่า…สตรีผู้นี้ เป็นสาวกที่แท้จริงของท่านหญิงซัยหนับ(อ.)หรือไม่?

ผู้เรียน: สตรีผู้นี้ร้องไห้เพราะ ต้องการจะบอกว่า เสียดายที่มีลูกแค่ 4 คน ใช่มั้ยคะ?

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี : ใช่ครับ

*****************

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี:

เรื่องที่สี่ — ใครรู้จัก ชะฮีดอับบาส มูซาวี บ้าง ?

ผู้เรียน: ผู้นำฮิสบุลลอฮ์ คนแรกใช่ไหมครับ

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี : ใช่ ผู้นำฮิซบุลลอฮคนแรกครับ

ท่าน คือ ผู้ที่ทำให้อิสราเอลต้องหนีออกจากเลบานอน แบบไม่คิดที่จะกลับมาอีก…ทำให้กองทัพพันธมิตร นาโต้ และอเมริกา ต้องหนีออกจากเลบานอน เช่นกัน…บรรดาศัตรูจึงไล่ล่าชีวิตของท่านอย่างสุดกำลัง

วันหนึ่งท่านได้ไปประชุม หรือบรรยาย ณ สถานที่หนึ่ง …

 

เมื่อใกล้ค่ำ ชุดคุ้มกันได้บอกกับท่านว่า เราควรกลับได้แล้ว เพราะถ้าค่ำแล้วจะไม่ปลอดภัย ท่านได้บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง วันนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉันแน่นอน…

ชุดคุ้มกันจึงถามว่า…อะไรทำให้ท่านมั่นใจถึงขนาดนั้น…

ท่านตอบว่า… ‘เพราะภรรยาของฉันไม่ได้มาด้วย’

ทุกคนจึงหัวเราะ คิดว่าท่านพูดเล่น แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยมาก…

ชุดคุ้มกันจึงรู้ว่ามันไม่ใช่แล้ว ต้องมีอะไรที่ลึกซึ้งแน่นอน จึงได้ถามท่าน…ท่านได้บอกว่า ที่มั่นใจ ก็เพราะว่าฉันได้ยินการขอดุอาอฺของภรรยาของฉันมาตลอด

 

นางได้ขอจากอัลลอฮ(ซบ.) ว่า… ‘ยาอัลลอฮ ถ้าวันใดพระองค์ทรงกำหนดให้สามีของข้าเป็นชะฮีด ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นชะฮีดพร้อมกับเขาด้วยเถิด’

 

‘นางได้ขอสิ่งนี้ แม้แต่ในนมาซตะฮัจญุดของนาง…และฉันก็มั่นใจว่า อัลลอฮ(ซ.บ.)จะตอบรับดุอาอฺของนาง’

และวันนั้นก็มาถึง เมื่อท่านได้เดินทางพร้อมครอบครัว เฮลิคอปเตอร์ของอิสราเอล 6 ลำ ได้ยิงถล่มรถยนต์ของท่านที่มีภรรยา และลูกน้อยอีกหนึ่งคน พวกเขาได้เป็นชะฮีดพร้อมกัน ตามดุอาอฺของภรรยาท่าน ซึ่งถือเป็นภรรยาที่มีมะอฺรีฟัต

 

แต่กลับกัน สำหรับบรรดาภรรยาที่ไม่มีมะอฺรีฟัตก็จะเฝ้าร้องขอดุอาอฺให้ลูกหรือสามี รอดพ้นจากการบาดเจ็บล้มตาย

 

ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี : เท่านี้พอจะพิสูจน์ได้ไหมว่า…แบบอย่างของท่านหญิงซัยหนับ(อ.)ยังคงมีอยู่ในยุคนี้ ?

اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم