ความเดิมจากบทเรียนซิยารัตญะมีอะตุลกะบีเราะฮ์ 1441

14

ในการอรรถาธิบายถึงสถานภาพของบรรดาอะฮ์ลุลบัยตฺ จากบทเรียนซิยารัตญะมีอะตุลกะบีเราะฮ์ ตามที่ท่านฮุจญฺตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ได้บรรยายไว้ เมื่อเดือนรอมฎอน ประจำปี ฮ.ศ. 1441 เป็นตอนล่าสุดจากบทเรียนดังกล่าวนั้น…

มาจากประโยคหนึ่งของตัวบทซิยารัต นั่นคือประโยค

‎وَحَمَلَةِ كِتابِ اللّٰهِ…

ซึ่งให้ความหมายโดยสังเขปว่า อะฮ์ลุลบัยตฺ คือ ผู้ที่แบกรับ ผู้ที่นำพา ผู้ที่ยืนหยัดในคัมภีร์ของอัลลอฮ์ (ซ.บ.)

ท่านซัยยิดสุไลมาน ได้กล่าวทิ้งท้ายในการบรรยายประโยคส่วนนี้ เอาไว้ดังนี้:

≿━━━━༺❀༻━━━━≾

💠ท่านซัยยิดญะมาลุดดีน อัลอัฟกานี ได้พูดประโยคหนึ่งที่ดีเลิศที่สุด ความว่า

‘ยุโรป ที่ประสบความสำเร็จ ประสบความเจริญ เพราะทิ้งไบเบิ้ล’ เนื่องจากไบเบิ้ลเต็มไปด้วยการบิดเบือน มั่วไปหมด ทั้งเรื่องโลกแบน และอื่นๆ ทั้งยังมีการสังคายนา แก้ไข เปลี่ยนแปลง ไม่รู้ของใครต่อของใคร ฉบับนั้น ฉบับนี้ เต็มไปด้วยความสับสน

เมื่อยุโรปทิ้งไบเบิ้ล จึงเกิดความเจริญ ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ ทั้งหมด

‘แต่ทว่ามุสลิม ที่ตกต่ำ เป็นเพราะทิ้งอัลกุรอาน’

วิถีชีวิตของมุสลิม ไม่ได้เป็นวิถีชีวิตของผู้ศรัทธาที่แท้จริง ไม่ได้อยู่กับอัลกุรอาน

ปัญหาชีวิตของผู้ศรัทธา ไม่ได้ถูกแก้ไขด้วยกับอัลกุรอาน โรคร้ายทางจิตวิญญาณ ไม่ได้ถูกรักษาด้วยกับอัลกุรอาน

ดังนั้น หากจะประสบความสำเร็จ หากต้องการจะเป็นอุมมัตที่ประเสิรฐสุดของท่านนบี(ศ็อลฯ) ดังนี้แล้วจะต้องเป็น حملة القرآن

[กล่าวคือ] เป็น “ผู้ที่นำพาอัลกุรอาน” — ซึ่งความหมายของมันจะค่อยๆสูงส่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงความหมายของบรรดาอะฮ์ลุลบัยตฺ นั่นคือ “ผู้ที่ยืนหยัดในอัลกุรอาน”

ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฎ) ทำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ก็มาจากการตามอัลกุรอาน จึงทำการปฏิวัติ

นี่คือ ความหมายของ حملة القرآن (ฮะมาละตุลกุรอาน)

นำอัลกุรอานมาปฏิวัติ ทำให้อัลกุรอานเป็นธรรมนูญปกครองประเทศ

รัฐธรรมนูญของประเทศจะต้องตรงกับพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน…นี่คือ حملة القرآن ขั้นสูงสุด

แต่ของเรา …ไม่ต้องถึงขั้นนั้น.. เพียงเริ่มจากการอ่านอัลกุรอานเป็นประจำ การศึกษาความหมายเป็นประจำ การทำให้อัลกุรอานเป็นคำตอบของชีวิตเรา การนำเอาอัลกุรอาน มาเป็นทางแก้ปัญหาชีวิตของเรา ก็ถือว่าสูงส่งเพียงพอแล้ว

อนึ่ง และ[คุณลักษณะที่] ควบคู่กับ حملة القرآن ก็คือ اصحاب اللیل (อัศฮาบุลลัยนฺ) — จะต้องเป็น “สหายแห่งยามค่ำคืน”

หมายความว่า อยู่กับการวิงวอน อยู่กับการนมาซในยามค่ำคืน

หนึ่งในความหมายที่แคบที่สุด ก็คือ การนมาซตะฮัจญุด การนมาซในยามดึก การอ่านอัลกุรอานในยามดึก

ซึ่งอัลฮัมดูลิลลาฮฺ ในรอมฎอนปีที่ผ่าน พวกเราบางคน ก็ได้ปฏิบัติกันบ้างแล้ว บางวัน บางคืน อาจจะทำไม่ได้ทุกคืน อย่างไรก็ตามแต่ สิ่งหนึ่งที่พี่น้องจะต้องรู้ก็คือ พี่น้องได้เป็น “อัศฮาบุลลัยนฺ”

การตื่นมาก่อนสะฮัร คือ อัศฮาบุลลัยนฺ — การตื่นมากินข้าว เพื่อจะถือบวชนี่แหละ เพราะเราตื่นขึ้นมา เพื่อมาฏออัตต่อคำสั่งของอัลลอฮ (ซ.บ) ซึ่งเข้าข่ายการเป็น อัศฮาบุลลัยนฺแล้ว

มากไปกว่านั้น คือ การที่เราได้อ่านอัลกุรอานก่อนอาซาน ในยามดึก ตี 1-2-3 ก็ทำให้เราได้กลายเป็น อัศฮาบุลลัยนฺ มากขึ้นไปอีก

ความหมายของ อัศฮาบุลลัยนฺ ที่แท้จริง คือ การได้ลุกขึ้นมานมาซในยามดึก นั่นคือ อัศฮาบุลลัยนฺ อย่างแท้จริง คือ การเป็นมิตรสหายแห่งยามค่ำคืน

อันที่จริงแล้ว การเป็นมิตรสหายแห่งยามค่ำคืน ก็คือ การเป็นมิตรสหายกับอัลลอฮ์ (ซ.บ)

อัลลอฮ์ (ซ.บ) เป็นเพื่อนกับผู้ที่คุยกับพระองค์ตอนดึกเท่านั้น จำไว้เลย

จะขออะไร หากขอหลังศุบฮ์ ก็อาจจะยากหน่อย อัลลอฮ์ (ซ.บ) อาจจะไม่ค่อยรับฟังเท่าไหร่ แต่หากใครตื่นมาตอนสะฮัร มาพูดคุยกับอัลลอฮ์ (ซ.บ) ขอกับอัลลอฮ์ (ซ.บ)ก่อนอะซานศุบฮฺ อัลลอฮ์ (ซ.บ) จะรับฟังมากกว่า…

และความเป็น อัศฮาบุลลัยนฺ เราก็ได้มาในเดือนรอมฎอน นี่คือ สิ่งที่อยากจะฝากเอาไว้ เราได้สิ่งนี้มาในเดือนรอมฎอนแล้ว

ดังนั้น หากอยากจะเป็น “อัชรอฟ”.. เป็นอุมมัตที่ประเสริฐสุดของท่านนบี(ศ็อลฯ) จงนำพาสองสิ่งข้างต้นนี้ ซึ่งเราได้ฝึกฝนในเดือนรอมฏอน ไม่มากก็น้อย

แต่ละคน อย่างน้อยได้ใกล้ชิดกับอัลกุรอานแล้ว ซึ่งเข้าไปอยู่ในแก็ปของการเป็น “ฮะมาละตุลกุรอาน”

และได้ลุกขึ้นมายามดึกแล้ว นั่นก็เข้าไปในแก็ปของการเป็น “อัศฮาบุลลัยนฺ”

เพราะฉะนั้น จงรักษาสิ่งนี้ และก็ค่อยๆพัฒนา การเป็น ฮะมาละฮฺ ของอัลกุรอานอย่างแท้จริง

เพราะ “ฮะมาละตุลกุรอาน” นั้น จะนำมนุษย์ไปสู่ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

คนที่อยู่กับอัลกุรอาน คนที่อยู่กับการทำความเข้าใจอัลกุรอาน แม้วันละนิด หากเราตั้งใจ มันจะค่อยๆพัฒนาไปเอง ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ภาษาอาหรับ แต่ถ้ายิ่งรู้ ก็ยิ่งดี ถือเป็นเตาฟิกที่ยิ่งใหญ่อีกอันหนึ่ง

มีฮาดิษอีกบทหนึ่งจากท่านรอซูลลุลลอฮฺ (ศ็อลฯ)

ท่านนบี(ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า:

‎قال رسول الله (صلی‌الله‌علیه‌و‌آله‌وسلّم): «حملة القرآن عرفاء اهل الجنة

คนที่เป็น ฮะมาละฮฺ ผู้ที่นำพาอัลกุรอาน — ซึ่งคำว่า ฮะมาละฮ์ เราได้บอกความหมายของมันหมดแล้ว ในทุกความหมาย (ในการบรรยายก่อนหน้า)— ท่านนบี (ศ็อลฯ) กล่าวว่า ผู้ที่เป็นฮะมาละตุลกุรอานนั้น “เขาคือ อาริฟในสรวงสวรรค์”.. เป็นผู้ที่อยู่ในสรวงสวรรค์เยี่ยงอาริฟ

ลองพิจารณาดูในโลก(ดุนยา)นี้ เราให้ความสำคัญกับอาริฟมากขนาดไหน..อย่างไรก็ดี ท่านนบี (ศ็อลฯ) บอกว่า:

บุคคลที่ ฮะมัล กับอัลกุรอาน…บุคคลที่สัมพันธ์กับอัลกุรอาน…บุคคลที่นำพากับอัลกุรอาน…บุคคลที่ทำความเข้าใจกับอัลกุรอาน…ใช้อัลกุรอานเป็นข้อแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตของเขา…สิ้นสุดในคำๆเดียวตามที่ท่านนบี (ศ็อลฯ) กล่าวไว้ คือ : حملة القرآن عرفاء اهل الجنة

หมายความว่า เขาไม่ได้เข้าสวรรค์แบบคนธรรมดา แต่เข้าสวรรค์เยี่ยง “อาริฟ”

เขาคือ ปวงอาริฟแห่งสรวงสวรรค์•••

اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم