✨ธารธรรม เนื่องในวันคล้ายวันประสูติท่านอิมามฮูเซน อิบนิอะลี (อ) ขอแสดงความยินดียังท่านอิมามประจำยุคสมัย อิมามมะฮ์ดี(อ) ผู้มาโปรดโลก และผู้ศรัทธาทุกท่าน
📝บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
___________________
••• ขบวนการของท่านอิมามฮูเซน (อ) เริ่มต้นที่เมืองมักกะฮ์และมุ่งสู่กูฟะฮ์ ขบวนการปฏิวัติของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)ก็จะเริ่มที่มักกะฮ์และจะมุ่งสู่กูฟะฮ์เช่นกัน
นี่เป็นอีกความเหมือนหนึ่ง ระหว่างการปฏิวัติของท่านอิมามฮูเซน(อ) กับการปฏิวัติของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) หรือแม้แต่คำเรียกร้องเชิญชวน และสโลแกน หรือ วาทกรรมหลัก ที่ท่านอิมามฮูเซน(อ)เรียกร้องในการปฏิวัติของท่านนั้น ท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)จะกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่งด้วย
ในตัวฮาดิษมีรายละเอียดถึงขั้นเป็นประโยคเดียวกันกับท่านอิมามฮูเซน(อ)ใช้ประกาศ
“ﺃﻻ ﺗﺮﻭﻥ ﺃﻥ ﺍﻟﺤﻖ ﻻ ﯾﻌﻤﻞ ﺑﻪ ، ﻭﺃﻥ ﺍﻟﺒﺎﻃﻞ ﻻ ﯾﻨﺘﻬﻰ .”
ความว่า: “โอ้มวลมนุษยชาติ โอ้มวลมุสลิมผู้ศรัทธาไม่เห็นดอกหรือ ว่าวันนี้นั้น สัจธรรมไม่ได้ถูกปฏิบัติแล้ว ไม่เห็นดอกหรือ…ความมดเท็จ “ باطل”(บาฏิล)ต่างๆกลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกยึดถือ… กลับกลายเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ละเว้น”
ท่านอิมาม(อ)ได้กล่าวกับมนุษยชาติและมุสลิมในภาพรวม และอัลฮัมดุลิลลาฮ์ เหตุการณ์ต่างๆในวันนี้ได้ยืนยันถึงคำพูดนี้แล้ว
เมื่อพิจารณาการปรากฏตัวของกลุ่มดาอิช…กลุ่มตักฟีรี..โดยสรุปก็คือ การปรากฏตัวของซุฟยานีนั่นเอง เป็นการปรากฏตัวของบุคคลที่นิยมชมชอบในอิสลามของบนีอุมัยยะฮ์ (ล.น)
มันเริ่มปรากฏตัวในรูปแบบที่ชัดแจ้ง และในวันนี้มวลมุสลิมจำนวนมากขานรับ ต่อการปรากฏตัวของอิสลามอันจอมปลอมเหล่านี้ โมฆะกรรมกำลังถูกยอมรับไปทั่วโลก อิสลามแห่งบนีอุมัยยะฮ์ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับอิสลามของอะฮ์ลุลเบต(อ)
ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่อิสลามบนีอุมัยยะฮ์ได้กลับมาอย่างสมบูรณ์ เหตุการณ์กัรบาลาอฺ และวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺ ก็จำต้องเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทว่าด้วยคำสัญญาของบรรดาอะฮ์ลุลเบต(อ) และจากบรรดาอะลิมอุลามะอฺยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การกลับมาคราวนี้ เป็นการกลับมา “เพื่อชัยชนะ”
กัรบาลาอฺแห่งยุคสมัยของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) นั้น หมายถึงยะซีดจะต้องถูกสังหารและพลพรรคของบนีอุมัยยะฮ์จะต้องถูกทำลาย จนไม่เหลือซากอีกต่อไปในโลก
เหล่านี้คือ สัญญาหนึ่งที่บรรดาอะอิมมะฮ์ได้สัญญาไว้ การห่ำหั่นกันคราวนี้จะเกิดในทุกรูปแบบ ตั้งแต่ด้วยคมดาบของวีรชนแห่งกัรบาลาอฺในยุคของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) รวมทั้งด้วยการลงโทษจากอัลลอฮ์ (ซบ.)โดยตรง ซึ่งเรามีริวายัตเป็นจำนวนมาก เช่น ธรณีจะสูบพลพรรคของซุฟยานีในระหว่างเส้นทางอิรัคกับซีเรีย
ดังนั้น แบบฉบับการพลีของท่านอิมามฮูเซน(อ)และบรรดาวีรชนแห่งกัรบาลาอฺ ก็เพื่อสิ่งนี้ เป็นแบบฉบับที่ถูกกำหนดมาเพื่อเป็นพิมพ์เขียวให้วิศวกรสังคมยุคสมัยของอิมามมะฮ์ดี(อ) นำมาก่อฐานรากสร้างสังคมปฏิวัติ ด้วยการปลูกฝังจิตวิญญานและวิถีชีวิตแห่งการพลีนี้ เพื่อนำมารับใช้ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ)และให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาที่เอกองค์ อัลลอฮ์(ซ.บ.)ได้สัญญาไว้แก่มวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่มวลชนผู้ถูกกดขี่ทั้งหลาย
✳️ ทุกๆ วันคืออาชูรอ ทุกแผ่นดินคือกัรบาลา
นัยยะสำคัญ หนึ่งในความแตกต่างระหว่างการพลีของท่านอิมามฮุเซน(อ)กับการพลีในกัรบาลาอฺของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) คือ จะต้องมีการพลีก่อนการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)
ในประเด็นนี้เรามีริวายัตต่างๆอย่างมากมาย รายงานว่า ก่อนถึงกัรบาลาอฺอันสมบูรณ์ของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)ที่จะชำระหนี้เลือดให้กับกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮูเซน(อ)นั้น สภาพการณ์กัรบาลาอฺ ขนาดย่อมๆจะเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก เหมือนเช่น ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชาติชาวอิหร่านกลายเป็นวีรชนแห่งกัรบาลาอฺ และอิหร่านกลายเป็นแผ่นดินแห่งกัรบาลาอฺในยุคสมัยของท่าน
สภาพการณ์นี้ เป็นสิ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ และได้ช่วยอธิบายประโยคหนึ่งจากท่านอิมามญะอ์ฟัรอัซซอดิก(อ)ที่กล่าวไว้ว่า…
“کل یوم عاشورا کل ارض الکربلا”
(กุลลุโยม มินอาชูรอ กุลลุอัรฎิลกัรบาลา)
“ทุกๆวัน คือ อาชูรอ ทุกแผ่นดินคือ กัรบาลา”
ฉะนั้น วีรชนกัรบาลาอฺจะเกิดทุกแผ่นดินทั่วทุกภูมิภาคในโลกนี้
✳️ เงื่อนไขของการปรากฏ เมื่อทุกคนจะต้องแสดงบทบาทแห่งกัรบาลา
หากเราพิจารณา ริวายัตเรื่องการปรากฏตัวของอิมามมะฮ์ดี (อ)จะเห็นว่า ได้กำหนดเงื่อนไขการปรากฏของอิมาม(อ)ประการหนึ่งว่า อิมาม(อ) จะยังไม่ปรากฏ จนกว่า บรรดาชีอะฮ์ทั้งโลกนี้จะสร้างเกราะกำบังให้กับท่าน และจนกว่ารัฐอิสลามฉบับคู่มือเตรียมตัว จะต้องเกิดขึ้นก่อน และท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้ทำให้เกิดขึ้นแล้ว
ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ.)ได้ประกาศอย่างชัดเจนในการปฏิวัติของท่านว่า การปฏิวัตินี้ประสบความสำเร็จ เพราะสตรีของเรานั้นคือ ซัยหนับแห่งยุคสมัย เหล่าวีรบุรุษและเยาวชนก็เช่นเดียวกัน รวมทั้งนักรบผู้พลีในอิหร่าน พวกเขาเหล่านั้นได้แสดงบทบาทวีรชนแห่งกัรบาลาอฺให้ปรากฏขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ ท่านซัยยิดฮาซันนัศรุลลอฮ์ ผู้นำขบวนการฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน ก็ได้เคยออกมาประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า กัรบาลาอฺแห่งเลบานอนได้เกิดขึ้นแล้ว
เราฮิซบุลลอฮ์ได้แสดงแบบ ดั่งเช่น วีรชนแห่งกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮูเซน(อ)ได้แสดงแบบไว้ ท่านได้ออกมาประกาศอย่างผู้ที่เข้าใจในเนื้อหาว่า กัรบาลาอฺแห่งฮูเซน(อ)ประสงค์จะมอบสิ่งใดและปราถนาให้อะไรเกิดขึ้นกับโลกนี้ ท่านยังได้กล่าวว่าเหล่าสตรีของเรา …เหล่าวีรบรุษของเรา ได้เป็นเยี่ยงวีรสตรีและวีรบุรุษแห่งกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮูเซน(อ)แล้ว
สรุป ท่านซัยยิดฮาซันนัศรุลลอฮ์ยืนยันว่า กัรบาลาอฺแห่งเลบานอนได้เกิดขึ้นแล้ว เช่นเดียวกันผู้นำสูงสุดในยุคปัจจุบันท่านอิมามคาเมเนอี ได้กล่าวถึงเช่นกันว่า….
การรำลึกที่แท้จริงถึงกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮูเซน(อ) นั้น ก็คือ บรรดาผู้รำลึก นำเรื่องแห่งกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮูเซน(อ) มาปรับใช้ในวิถีชีวิตยุคปัจจุบันของเขา ทั้งนี้ท่านอิมามคาเมเนอี ได้ยืนยันประเด็นนี้ หลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระว่า การรำลึกนี้ไม่ได้เป็นแต่เพียงการรำลึกด้านประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นการรำลึกเพื่อปลูกฝังจิตวิญญาณแบบนี้ให้เข้าไปอยู่ในครอบครัวของเรา จริงๆ ไม่ใช่เพียงตัวของเรา แต่เป็นในครอบครัวของเรา เพราะวันหนึ่งจะมาถึง วันที่ทุกคนจะต้องแสดงบทบาทของวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺ ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆและสตรี
อนึ่ง การปรากฏตัวของกลุ่มดาอิช ได้ยืนยันถึงเรื่องนี้ ปัจจุบันนักรบอเวจี เหล่านี้ไม่เว้นชีวิตใคร แม้แต่ซักคนเดียว มีเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นอย่างมากมาย และผู้ที่รำลึก “กัรบาลาอฺ” อย่างแท้จริง มองเห็นว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ แต่เป็นเรื่องที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้พวกเขาแสดงต่อ และมีผู้แสดงเช่นนั้นจริงๆ
เมื่อไม่นานมานี้ เหตุเกิดในแผ่นดินอิรัค รถบัสจากอิหร่านเข้าไปซียารัตและถูกจับโดยกลุ่มดาอิช
เบื้องต้น พวกมันได้เรียกผู้ชายลงมาจากรถทั้งหมดประมาณสิบคนและบอกให้ทุกคนสาปแช่งท่านอิมามอาลี (อ) แต่ไม่มีใครกล่าวสาปแช่ง
พวกดาอิชได้จับชีอะฮ์คนที่หนึ่งแล้วขู่ว่า จะเชือดคอคนนี้ให้ดูก่อน ถ้าพวกเจ้าอีกเก้าคนไม่สาปแช่งอิมามอาลี(อ) ก็จะถูกเชือดเหมือนคนนี้ แล้วพวกมันก็ทำการเชือดคอคนแรกขาดสะบั้น
หากถามว่า ชายคนนี้ถูกเชือดคอเพราะเหตุใด?
เขาถูกเชือดเพราะเขาไม่ประณามท่านอิมามอาลี(อ)
ทีนี้ย้อนกลับมาที่ตัวเรา แล้วถามว่า ถ้าพวกเราเป็นคนที่สอง…สาม…สี่…ห้า…หกจนไปถึงคนที่สิบเราจะทำอย่างไร?
เราจะเลือกหัวขาดสะบั้นหรือจะเลือกประณามท่านอิมามอาลี( อ) …. ไม่ต้องตอบ และอย่าตอบอย่างเด็ดขาด ถ้าหากเราไม่ใช่ผู้ที่ยืนดูการเชือดคนที่หนึ่ง แต่อัลฮัมดูลิลละฮ์ ในวันนั้นชีอะฮ์ทั้งสิบคนที่ถูกนำลงมาจากรถบัสถูกเชือดคอทั้งสิบคน หลังจากนั้นพวกมันได้กราดยิงทั้งเด็กๆและสตรีบนรถเสียชีวิตทั้งหมด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่เดือนที่ผ่านมา [*หมายเหตุ การบรรยาย เมื่อปี 2557]
ความจริงเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว มันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จนทุกวันนี้ก็ยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่
ที่ยกตัวอย่างนี้ เพื่อจะยืนยันว่า การรำลึกวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺ ไม่ใช่การรำลึกเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ แต่วีรกรรมและจิตวิญญาณนี้ บรรดาชีอะฮ์ทั้งหลายจะต้องร่วมแสดงต่อไป หากปราศจากการปลูกฝังจิตวิญญาณของท่านอิมามฮูเซน(อ)แล้ว ยากยิ่งที่ใครจะสามารถผ่านพ้นการทดสอบอันยิ่งใหญ่นี้ได้
“กัรบาลาอฺ”ต้องการที่จะปลูกฝังจิตวิญญาณเช่นนี้และจะต้องเกิดขึ้นทั้งครอบครัว..ลูกของเรา.. ภรรยาของเรา… สตรีของเราทุกๆคน จะต้องมีจิตวิญญาณแห่งวีรสตรีแห่งกัรบาลาอฺ เช่น การที่ ‘อุมมุลวาฮับ’ได้โยนศีรษะของลูกชายกลับไปยังสนามรบ และได้ตะโกนออกไปว่า เราจะไม่รับคืนในสิ่งที่เราได้กุรบานให้กับอัลลอฮ์ (ซบ.)แล้ว
เรื่องราวต่างๆในลักษณะนี้กำลังเกิดขึ้นในแผ่นดินอิรัค…แผ่นดินซีเรีย มีอุลามาอิหร่านท่านหนึ่ง ไปซียารัตที่ ‘ซามัรรอ’ไปซียารัตท่านอิมามฮาดี(อ) ซียารัตท่านอิมาม อัสการีย์ (อ) และถูกพวกดาอิชเหล่านี้จับได้ พวกมันได้เชือดคอท่านพร้อมครอบครัว
ทั้งหมดนี้ เป็นพฤติกรรมแห่งบนีอุมัยยะฮ์แห่งกัรบาลาอฺมันได้กลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
การปฏิวัติของท่านอิมามมะฮดี (อ) ต้องอาศัยพลังทั้งหมด ทั้งจากวีรบุรุษและวีรสตรีแห่งกัรบาลาอฺในยุคสมัยของตน เราจะต้องปลูกฝังครอบครัวของเราให้รักการพลีเพื่อศาสนา พร้อมที่จะพลีบุคคลในครอบครัวของเราให้กับศาสนา แม้นว่าเราจะมีความรักความผูกพันในครอบครัวมากซักขนาดไหนก็ตาม แต่ความรักความผูกพันนี้ก็พร้อมที่จะพลีในหนทางของอัลลอฮ์(ซบ.) และพลังที่จะก่อเกิดขึ้นต่อจิตวิญาณแบบนี้ คือ พลังที่เราได้รับการซึมซับถ่ายทอดมาจากกัรบาลาของท่านอิมามฮูเซน(อ) เท่านั้น•••
اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم