📝 บางส่วนจากการบรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามฯ ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
___________________
🔵 [เนื้อหาต่อจากตอนที่ 1]
จากซูเราะฮฺอัลอะฮ์ซาบ โองการที่ 46 อัลลอฮฺ (ซ.บ) ตรัสว่า
——————
وَدَاعِيًا إِلَى اللَّهِ بِإِذْنِهِ وَسِرَاجًا مُّنِيرًا
และเป็นผู้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ ตามพระบัญชาของพระองค์ และเป็นดวงประทีปอันแจ่มจรัส
——————
🔘 คำว่า : “وَسِرَاجًا مُّنِيرًا” และแถมยังเป็นดวงประทีปที่จรัสแสง
นบีมูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) เป็นดวงประทีปที่จรัสแสง ชัดแจ้ง เพราะ ท่านคือ แสงที่จะพาไปยังอัลลอฮ (ซบ) ที่เข้มข้นที่สุดและสวยงามที่สุด
🔸คำอธิบาย: คำว่า “سِرَاجًا مُّنِيرًا” (ซิรอญัมมูนีรอ) ซึ่งเมื่อแยกคำ คำว่า “مُّنِيرً” (มุนีร) ก็คือ การจรัสแสงแบบดวงจันทร์ ด้วยสาเหตุนี้ ท่านจึงถูกเรียกว่า “ มูนีร” และการจรัสแสงนี้ นัยยะที่ลึกซึ้งด้านใน คือ มีความเย็นอยู่ในนั้น
และเหตุผลที่ทางพี่น้องชาวอะฮ์ลิซซุนนะห์ บางครั้ง เวลาเขาอ่าน ‘บัรซันญี’
“وانت الشمش انت القمر”
(วะอันตัชชัมซุน อันตัลกอมัรรฺ)
ความว่า ท่านเป็นเสมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสวและพร้อมที่จะแผดเผาด้วย
อีกความหมายหนึ่ง ท่านเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสว นี่คือนบี และในเวลาเดียวกัน ท่านยังเปรียบ “قمرمنیرا” (กอมะรุมมูนีรอ) เสมือนจันทร์เพ็ญที่สว่างไสว ซึ่งหากว่าทุกคนจินตนาการว่า กำลังแหงนมองดูคืนที่มีจันทร์เพ็ญ แน่นอนทุกคนจะเห็นพระจันทร์สดสวยพราว อร่ามสว่างไสว และนวลเยือกเย็น
นี่คือ ประโยคหนึ่งในบัรซันญีที่กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) ซึ่งในฮะดิษก็มีเปรียบเทียบว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) ในบางโอกาสท่านเหมือนกับแสงแห่งดวงจันทร์ที่มีความเยือกเย็นอยู่ในมัน และในบางโอกาสท่านเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่พร้อมแผดเผา
ดังนี้แล้ว คำว่า “سِرَاجًا مُّنِيرًا” (ซิรอญัมมูนีรอ) ดวงประทีปที่จรัสแสง
และ “ وَمُبَشِّرًا مُؤْمِنينَ”(วะบัชชิรัน มุมินีน) เป็นผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน ไปยังผู้ศรัทธา ที่บ่งชี้ว่าในการส่งเจ้าลงมานั้น จงแจ้งข่าวดี
นี่คือ ข่าวดีครั้งที่สอง
🔻แท้จริงแล้วการลงมาของท่านนบีมูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) เป็นข่าวดีสำหรับมนุษย์ทุกคน และเป็นข่าวดีสำหรับมวลมนุษยชาติ แต่ทั้งนี้ท่านนบีนำข่าวดีมาให้สำหรับมุอฺมิน(ผู้ศรัทธา)อย่างแท้จริง หรือ สำหรับมุมินอย่างแท้จริงเท่านั้น
ฉะนั้นต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ข่าวดีนี้ไม่นับรวมมุอฺมินเพียงลมปาก หรือมุมินเพียงท่าทาง โดยเฉพาะพฤติกรรม วิถีการดำเนินชีวิต คำพูดคำจาอะไรทุกอย่าง หากไม่มีสภาพของผู้ศรัทธาที่มีพฤติกรรมและจิตวิญญาณพร้อมตรงกันอยู่เสมอนั้น ถือว่าไม่ใช่
หากจะกล่าวโดยสรุป สำหรับประเภทบุคคลที่เป็นมุอฺมินที่แท้จริงอัลลอฮ(ซบ)เท่านั้น ที่พระองค์บอกว่า นี่คือ การแจ้งข่าวดีครั้งที่สอง ที่พระองค์ทรงมอบให้กับพวกเขา เพื่อชี้ว่าผู้ที่ศรัทธาอย่างแท้จริงเท่านั้น คือผู้ที่ได้ใช้ประโยชน์จากท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ)ได้อย่างสมบูรณ์
ดังนั้น ถ้าเราคาดหวังที่จะใช้ประโยชน์สูงสุดจากดวงประทีปอันจรัสแสงนี้ เราต้องพัฒนาให้ได้เป็นมุอฺมินอย่างแท้จริงให้ได้ หรือถ้าจะอธิบายให้เข้าใจมากกว่านี้ หมายความว่า เท่าที่ความศรัทธาของเรามีต่อท่านนบี หรือ เรามีศรัทธาต่อท่านนบีเท่าไหร่ เราก็จะได้ประโยชน์จากการมีของท่านนบี เราจะได้บะรอกัต รวมทั้งเราจะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เท่าที่อิมามของเรามีนั่นเอง
ความจริงแล้ว บะรอกัตนี้ ทุกคนไม่มีใครได้เท่ากัน แน่นอนเท่าที่อิหม่านของแต่ละคนพึงมี ในการจะได้ประโยชน์จาก “سِرَاجًا مُّنِيرًا” (ซิรอญัมมูนีรอ) ในความหมาย “ประทีปอันจรัสแสง” อันนี้ •••
الّلهُمَّ صَلِّ عَلَی مُحَمَّدٍ وَ آلِ مُحَمَّدٍ و عَجّل فَرَجَهم