สกู๊ปพิเศษ !!! เปิดโปงซัยยิดยะมานีปลอม ตอนที่ 2

2117

สกู๊ปพิเศษ !!! เปิดโปงซัยยิดยะมานีปลอม ตอนที่ 2
โดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
ณ มัสยิดอิมามอาลี อ.ท่าแพ จ.สตูล
วันที่ 22 พฤษภาคม 2558
♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔
♔♔อังกฤษสร้างวะฮาบีและบาไฮ ♔♔
หากว่าพี่น้องได้รับรู้ประวัติศาสตร์ ณ วันนั้น อังกฤษ คือ ผู้สร้างวะฮาบีและบาไฮขึ้นมาในยุคที่ใกล้เคียงกัน โดยสร้างแนวคิดวะฮาบีให้สอดแทรกเข้าไปในซุนนี่แล้วสร้างบาไฮให้แทรกเข้าไปในชีอะฮ์
วิธีการ ก็คือ สร้างกระบวนการให้มีความเชื่อคล้ายกันหรือเหมือนกับชีอะฮ์ ในบางเรื่อง บางประเด็น โดยเฉพาะ ยังคงไว้ซึ่งความเชื่อในเรื่องอิมามมะฮ์ดี(อ) ซึ่งทำให้ดูไม่แตกต่างอะไรกันมากนัก ระหว่างลัทธิบาไฮ กับ ชิอะฮ์
กล่าวคือ ในส่วนของบาไฮ มีความเชื่อเรื่องอิมามมะฮ์ดี(อ)และยังเพิ่มเติม สร้างความเชื่อว่า บาฮัยอุลลอฮ์ ซึ่งเป็นพระบาไฮ เป็นตัวแทนของอิมามมะฮ์ดี(อ) โดยการประกาศให้เป็นที่รับรู้ทั่วกัน

 

♔♔ จุดแข็งของชีอะฮ คือ การมีระบบมัรเญียะอฺ ♔♔

ด้วยเพราะชีอะฮ์มีโครงสร้างความศรัทธา ในระบบมัรเญียะอฺที่เข้มแข็ง คือ ระบบการชี้นำในทางศาสนาทุกด้าน หากเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน บรรดามัรเญียะอฺก็จะเป็นผู้ให้คำตอบต่อโจทย์ต่างๆเหล่านั้น ส่วนในโครงสร้างของพี่น้องอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ไม่มีระบบการชี้นำที่ชัดเจน ในลักษณะเช่นนี้ จึงมีผลทำให้ มัซฮับวะฮาบี ได้กลายเป็นสำนักคิดทางศาสนาอย่างเป็นทางการได้ ส่วนมัซฮับอื่นๆถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสำนักคิดที่อยู่นอกกฎหมายในซุนนะฮ์โดยปริยาย
ปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่า เมื่อนิกายวะฮาบี เป็นนิกายที่ถูกสถาปนาให้เป็นศาสนาหลักในแผ่นดินฮะรอม จึงทำให้พี่น้องของเราอ่านซิยารัต ตะวัซซุลและจูบกุโบรนบีไม่ได้ เหตุผลที่ไม่ได้รับอนุญาต เพราะศาสนาอิสลามที่เป็นทางการในแผ่นดินฮารอมนั้น ตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของนิกายวะฮาบีนั่นเอง

 

♔♔ บทบาทของอิหร่านในการต่อสู้กับแนวคิดแปลกปลอม♔♔

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ประเทศอิหร่านเป็นประเทศที่มีโครงสร้างทางศาสนาในระบบมัรเญียะอฺ เป็นทุนเดิม ทำให้มีความเข้มแข็ง สามารถประกาศอย่างชัดแจ้งทันที หากเมื่อเกิดแนวคิดแปลกปลอมอะไรขึ้นในอิหร่าน บรรดาอุลามาอฺจะออกฟัตวาว่า
(ضل و مضل)
นี่คือ แนวทางที่หลงผิด เป็นแนวทางที่ทำให้คนอื่นหลงทาง
ดังนั้น ลัทธิบาไฮในอิหร่านจึงต้องล้มลง และบรรดาแกนนำของพวกเขาได้หลบหนีออกนอกประเทศและยังไปอยู่อิสราเอลและในประเทศต่างๆ ภายหลังได้ลอกคราบ ผันตัวเองไปเป็น ‘บาไฮใหม่’ ตอนนี้ก็กลายเป็นศาสนาโลก โดยรวมพุทธ คริสต์ อิสลามเป็นศาสนาเดียวกัน (เรื่องบาไฮในอิหร่านก็จบไป)
ในเรื่อง อะฮหมัดยะมานี ก็เช่นกัน เชคอะหมัด ยะมานี ที่ปรากฏตัวขึ้นในอิรัก ภายหลังจากการนำเสนอความคิดว่า ตัวเขาเป็นซัยยิดดุลยะมานี

 

♔♔ ซัยยิดุลยะมานีคือใคร? ♔♔
จะอธิบายพอสังเขป เรามีฮาดิษ มีริวายัต ว่า ก่อนการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)นั้น จะมีการปรากฏตัวของซัยยิดุลโครอซานีและการปรากฏตัวของซัยยิดุลยะมานี
ซัยยิดโครอซานี คือ ซัยยิดที่มีเชื้อสายอิหร่าน
การปรากฎตัวของซัยยิดโคราซานีและซัยยิดยะมานีนั้น เบื้องต้น เยเมนจะนำทัพไปสมทบกับท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) ซัยยิดโครอซานีจะปรากฏตัวก่อนซัยยิดยะมานี ส่วนจะเป็นใครนั้นเราค่อยว่ากัน
อนึ่ง ซัยยิดโครอซานีและซัยยิดยะมานี เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ คือ เป็นทั้งซ้ายขวาของอิมามมะฮ์ดี(อ)
เมื่อศัตรูไม่อาจแทรกแซง ซัยยิดโครอซานี ได้ เพราะ ระบบมัรเญียะอฺของชีอะฮ์ทางอิหร่านนั้นมีความเข้มแข็ง ศัตรูจึงหันมาแทรกแซงทางด้านซัยยิดยะมานี
ในเรื่องนี้ ภายหลังเมื่อมีการตรวจสอบที่มาของเชคอะหมัด ยะมานี คนนี้ จึงรู้ว่า สถานภาพของเขานั้นสำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมและในอดีตเคยทำงานร่วมกับซัดดัม(ลน.)

นี่คือ ประวัติคร่าวๆที่มาจากแหล่งข้อมูลของนักวิชาการจากฝ่ายความมั่นคงอิหร่าน
ซึ่งในช่วงแรกๆ เขาก็อยู่อย่างลับๆ ต่อมาจึงประกาศตัวเป็น “ซัยยิดยะมานี” เพื่อเรียกร้องบัยอัต(ถวายสัตย์)จากคนอื่นๆ แต่ด้วยความที่เขาไม่ปรากฏตัวให้ผู้คนได้พบเห็นบ่อยนัก

ดังนั้น เมื่อประกาศตัวว่าเป็น“ซัยยิดยะมานี” จึงเกิดคำถามและความคลางแคลงใจแก่ผู้คนที่รับรู้เรื่องนี้ แน่นอน ชีอะฮ์จึงต้องกลับไปถามมัรเญียะอฺ ถามอาเล็มอุลามาอฺชั้นสูง จึงได้บทสรุปว่า….
คนๆนี้กำลังหลงทาง คนๆนี่กำลังแอบอ้าง !!
คนๆนี้ คือ ลัทธิแปลกปลอมที่ศัตรูสร้างขึ้นมาเพื่อทำลาย !!
เป็นแผน การสร้างความหวังเพื่อทำลายความหวัง ซึ่งเป็นกลยุทธหนึ่ง โดยประกาศว่า ซัยยิดยะมานีมาแล้ว อิมามมะฮ์ดี(อ)กำลังรับบัยอัต…

แต่สุดท้ายการเผยแพร่ ในอิรักไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมีมัรเญียะอฺหลายท่านออกมาต่อต้านและป้องกันให้พ้นจากสิ่งต่างๆเหล่านี้

IMAGE635094968306250000
“ท่านอยาตุลลอฮ์ซิสตานี” ประกาศอย่างชัดแจ้ง ให้จัดการหยุดยั้ง การเผยแพร่ของคนกลุ่มนี้ จนถึงขั้นบ้านของคนนี้ที่อ้างตัวเป็นซัยยิดยามานี ที่ ‘มัสรัด’ ถูกถล่ม ถูกเผา ตัวเขาเองต้องระหกระเหเร่ร่อนหนีไป กระทั่งปัจจุบันนี้ซัยยิดยามะนีคนนี้หนีไปอยู่ที่ออสเตรเลียแล้ว

ความจริงการใช้สติปัญญาสามารถพิสูจน์ถึงความบิดเบือนของแนวทางเหล่านี้ได้

 

ดังนั้น ถ้ามนุษย์มีสติ ยั้งคิด ไม่ต้องถึงกับดูฮะดิษ หรือ อัลกุรอ่าน ก็จะเข้าใจ
“ตัวแทนของอิมามมะฮ์ดี(อ)หนีไปอยู่ออสเตรเลีย !! ด้วยเหตุผล ปฏิบัติภารกิจในอิรัก ประสบความสำเร็จยาก”
ความเป็นมาลักษณะนี้ แทบจะไม่ต้องอ่านฮะดิษไม่ต้องอ่านกุรอานก็สามารถทำความเข้าใจได้ว่า นี่คือ ของปลอม
อาจจะมีคน 200 คน หรือ 3000 คนที่ติดตามเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ เพราะคนที่ชอบหลงทางมันมีอยู่ เหมือนกับกลุ่ม บาไฮ ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่เชื่อถือติดตาม แต่จะเข้มแข็งหรือมีมากพอที่จะเป็นปึกแผ่น เพื่อการทำลายล้างอันยิ่งใหญ่เหมือนกับวะฮาบีไม่ได้ เพราะ โครงสร้างของชิอะฮ์ มีระบบมัรเญียะอฺคุ้มกันให้รอดพ้นจากสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้อยู่

 

♔♔ จุดประสงค์ในการเผยแพร่ของซัยยิดยะมานีปลอม ♔♔

ภายหลังผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นซัยยิดยะมานี และอ้างตัวว่าเป็นตัวแทนของอิมามมะฮ์ดี(อ) หนีไปอยู่ออสเตรเลีย ทำการเผยแพร่ ตั้งฐานกันที่นี้ เพื่อให้พี่น้องชีอะฮ์ทั้งโลกให้บัยอัตแก่ยะมานีคนนี้
หนึ่งในจุดประสงค์ของเขา ก็เพื่อเบี่ยงเบนบรรดาชีอะฮ์โลกให้ออกห่างจากอิหร่าน ออกจากระบบวิลายะตุลฟากีย์ ด้วยการให้มีสองบัยอัต กล่าวคือ
หนึ่งบัยอัตกับวิลายะตุลฟากีย์ และ สองบัยอัตให้กับซัยยิดยะมานีคนนี้

 

♔♔ คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ ♔♔

ครั้งหนึ่ง เพื่อนผม โทรมาจากอินโดนีเซีย ซึ่งเพื่อนคนนี้เป็นนักเรียนศาสนาด้วยกันและเรียนมาพอสมควร เขาบอกว่ามีคนต้องการพบ มีเรื่องน่าสนใจ พอเขามาถึงเมืองไทย มาพบผมคนแรกเลย เราก็ต้อนรับพูดคุยกัน มีคนอิรักร่วมอยู่ด้วย เขาได้เล่าว่า “ตอนนี้ซัยยิดยะมานีปรากฏตัวแล้ว”

สำหรับเรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก เพราะซัยยิดยะมานี คือ คนที่จะนำทัพทะลวงเข้าไปในซาอุฯ และไปสมทบกับท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) ซึ่งเนื้อเรื่องไม่ใช่ประเด็นเล็กๆเลย
ความคิดแรกของผม สำหรับประเด็นนี้ คือ หากซัยยิดยะมานีปรากฏตัว ความน่าจะเป็น คือ อุลามาอฺที่นะญัฟ หรือที่ อิหร่าน ควรจะเป็นคนบอกให้เรารู้ แถลงไขให้รับรู้กันว่า ซัยยิดยะมานีปรากฏตัวแล้ว มันคงไม่ใช่คนอาหรับที่พเนจรไปอาศัยอยู่ออสเตรเลีย แล้วจู่ๆก็นั่งเครื่องบินมาอินโดนีเซีย แล้วแวะมาบอกเราที่เมืองไทย อย่างนี้
ผมบอกไปว่า อย่าสนใจเลย เขาจึงยกฮะดิษมาอธิบาย แต่ค่อนข้างสะเปะสปะ

จึงถามต่อไปว่า “คุณมีอะไรเป็นข้อพิสูจน์ว่า ชาย คนที่ชื่ออะหมัด ยะมานี ที่เรียนจบด้านวิศวะคนนี้ คือซัยยิดยะมานี ?

เขาอึ้งไป ผมจึงพูดต่ออีกว่า “หนังสือนี้คุณไปพิมพ์ซ้ำของคนอื่น มีฟัตวาที่พิมพ์ซ้ำจากคนอื่นอยู่มาก”
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คุณจะมาจากที่ไหนผมยังไม่รู้จักคุณเลย แล้วมาบอกว่า ซัยยิดยะมานีปรากฏตัวแล้ว ทั้งๆที่คนที่ถูกอ้างถึงนั้น ไม่เคยมีประวัติอยู่ในสารระบบ ไม่มีวีรกรรมที่รับรู้กัน คือไม่มีอะไรสักอย่าง แต่กลับอ้างว่าคือ ซัยยิด ยามานี ปรากฏตัวขึ้นมา

 

497
แม้นแต่ “ซัยยิดฮาซันนัสรุลลอฮ์”
ยังมีวีรกรรมหลายประการที่ชัดเจน ตามที่เรารับรู้กันในปัจจุบันนี้ อีกทั้งวีรกรรมต่างๆเหล่านั้นก็ตรงกับสัญลักษณ์การรอคอยอิมามมะฮ์ดี(อ)ด้วย อุลามาอฺยังสั่งห้ามพูดฟันธง นี่ขนาดระดับซัยยิดฮาซันนัสรุลลอฮ์แล้ว

عبدالملك حوثي
عبدالملك حوثي

عبدالملك حوثي

อีกท่านหนึ่ง ซัยยิดอับดุลมาลิก อัลฮูซี ผู้นำอัลศอรุลลอฮ์ในเยเมน มีบทบาทถึงขนาดนี้แล้ว อีกทั้งยังเป็น ‘ฮาซานี’อีกด้วย อุลามาอฺก็ยังห้ามพูด ห้ามสรุปว่าเป็นซัยยิดยะมานี
เพราะตามริวายัตบอกว่า ซัยยิดยะมานี นั้น มาจากเชื้อสายฮาซานี และซัยยิดโครอซานมาจากเชื้อสายฮูซัยนี ในสถานการณ์ปัจุบัน กลุ่มอันศอรุลลอฮ์ นำโดย ท่านซัยยิด อับดุลมาลิก อัลฮูซี ได้เริ่มต่อสู้กับซาอุดี้ และมีแนวโน้มล้ำแดนเข้าไปในแผ่นดินซาอุดิอาระเบีย เห็นได้ว่ามันมีความใกล้เคียงที่จะเป็นซัยยิดยะมานีมากกว่าคนฟั่นเฟื่อนคนหนึ่งที่มาประกาศแอบอ้างตัวเอง
จะเห็นได้ว่า แม้นแต่ซัยยิด อับดุลมาลิกเอง อาเล็มอุลามาอฺยังสั่งห้ามสรุปว่า ท่านคือซัยยิดยามานี
ห้ามแบบ “ตะยีนมิศดาก” (ยืนยันว่าเป็นตัวจริง) ในภาษาอาหรับ แม้จะใช้คำว่าห้าม หมายถึง ห้ามสรุป

 

11403012_884328458269609_2019056630592458237_n
เมื่อกลับมาพิเคราะห์

“เชคอะหมัด ยะมานี” คนที่เรากำลังพูดถึงนี้ ย้อนกลับไปดูประวัติของเขา อยู่ที่ออสเตรเลีย หากถามว่า เคยมีบทบาทสำคัญอะไรสักอย่างไหม?
คำตอบ คือ ไม่เคยทำอะไรเลย แต่อ้างเป็นซัยยิดยะมานี แล้วบอกประวัติรายละเอียดมากจนสับสน ผมก็เลยสอนให้มีหลักคิดเบื้องต้นว่า มันใม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสรุปว่าใครสักคน คือ ซัยยิดยะมานี
ถึงตรงนี้ ผมเลยลองถามถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านอยาตุลลอฮ์ซิสตานีว่าเป็นอย่างไรบ้าง ?
ปรากฏว่า เจ้าคนนี้ มันก็ด่าอยาตุลลอฮฺซิสตานีทันที ทำให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความมั่นใจได้ว่านี่คือ แนวทางที่เป็นเท็จแน่นอน

Seyyed-Ali-Khamenei1
หลังจากนั้น ผมถามต่อว่า “เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ซัยยิดคาเมเนอี” มีทัศนะอย่างไรบ้าง?
เขาตอบว่า “ซัยยิดคาเมเนอี เงียบอยู่ เราไปเจอท่านแล้วและยังไม่ตอบรับ หรือ ตอบปฏิเสธ”
ผมฟังแล้วก็เลยโทรไปถามที่สำนักงานของเราะบัรทันที คือ ผมมีความสัมพันธ์กับสำนักงานท่าน และรู้อยู่ว่าพวกนี้ต้องโกหก เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าสำนักงานท่านเราะบัรได้ แค่เหยียบแผ่นดินอิหร่านก็โดนจับทันที
ผมทั้งโทรไป ทั้งไปเล่าด้วยตนเองให้ตัวแทนในสำนักงานของท่านผู้นำสูงสุดรับรู้ว่า ตอนนี้มันกำลังแอบอ้างว่า มันเข้ามาที่ดัฟตัร(สำนักงาน) แล้ว และท่านผู้นำสูงสุดเงียบไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
ทางสำนักงานบอกว่า “มันเหยียบแผ่นดินอิหร่านเมื่อไหร่เข้าคุกหมดเลย” เพราะในอิหร่านมีประจำ ประเภทแอบอ้างเป็นคนโน่นคนนี้ อ้างเป็นอิมามมะฮ์ดีก็มี หรืออ้างว่าท่านหญิงซัยหนับปรากฏตัวทีนั้นที่นี้ อย่างนี้มีประจำ และสุดท้ายเกือบทั้งหมดถูกจับเข้าคุก สำหรับการเคลื่อนไหวแนวนี้ในอิหร่านจึงไม่บานปลาย
♔♔ ศัตรูศาสนา วางแผนทั้งกลางวันและกลางคืน ♔♔
ในการสร้างลัทธิปลอมนั้น มันคือ แผนการร้ายทุกอย่าง เพราะบรรดาศัตรูถ้าแม้นมันได้ดึงขนอุยสักเส้น มันก็จะดึง มันทำทุกวิถีทางถึงแม้จะดูเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งอัลกุรอานกล่าวว่า
(مَكْرُ اللَّيْلِ وَالنَّهَارِ) ซาบาอฺ 33
“บรรดาศัตรูของศาสนา มันวางแผนทั้งกลางวันและกลางคืน”
ขอเสริมรายละเอียดอีกสักนิด ตามที่ผมได้อ่านหนังสือที่พวกเขาอ้างกันแล้ว ข้อเท็จจริงถึงแม้จะอ้างฮะดิษของเชคตูซีก็จริงอยู่ แต่ฮะดิษที่มันพิมพ์ของ ‘เชคตูซี’นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนี้เลย ให้พิสูจน์ว่าหมายถึง เจ้าคนนี้หรือ? พวกเขาก็พิสูจน์ไม่ได้ และเชื่อว่าพวกนี้รู้แล้วว่าผมไม่ฮุบเหยื่อ ผมนอนอยู่คืนหนึ่ง พวกเขาพยายามเรียกผมว่า โอ้ลูกอิมามมะฮ์ดี หวังจะให้คล้อยตาม เช่นที่กล่าวตั้งแต่ตอนต้นว่าถึงแม้จะอ้างฮะดิษต่างๆและส่วนมากที่มีอยู่เป็นฮะดิษที่ใช้ได้แต่การเอามายืนยันว่าเป็น เจ้าคนนี้ กลับไม่มีหลักฐานใดๆพิสูจน์ได้

 

♔♔ คำสั่งอุลามาอฺ ห้ามฟันธงบุคคลในรีวายัต(ตะอยีน มิศดาก)♔♔
ทุกวันนี้ แม้นแต่จะยืนยันว่าท่านเราะฮ์บัร ผู้นำของเรา คือ ซัยยิดโครอซานี ในหมู่อาเล็มอุลามาอฺ ก็ยังไม่อนุญาต และเตือนว่าห้ามพูด ซึ่งอนาคต จะใช่ หรือไม่ ถึงเวลามาพิจารณากัน
แม้แต่ท่านเราะฮ์บัรเอง การยืนยันจะเป็นซัยยิดโครอซานีหรือไม่ ท่านยังสั่งห้ามพูด หรือ กรณีท่านซัยยิดฮาซันนัสรุลลอฮ์ ว่าจะเป็นซัยยิดยะมานีหรือไม่ ท่านยังสั่งห้ามพูด และไม่มีใครมีสิทธิ์พูด จนกว่า ‘ซัยยิดยะมานี’จะประกาศตัวตนของเขาเอง และได้รับการยืนยันจากอาเล็มอุลามาอฺชั้นสูง เราจึงจะเชื่อในเรื่องนี้ได้
ฉะนั้น ไม่ต้องเสียเวลาไปถกเถียงในประเด็นของฮะดิษต่างๆกับเขา เพราะไม่ใช่หน้าที่ของพี่น้อง แต่สิ่งนี้เป็นหน้าที่ของผมต้องทำความกระจ่างให้พวกเรารับรู้กัน
หลังจากนั้นผมได้กลับไป จึงอธิบายเชิงตำหนิต่อผู้ที่นำพามา ซึ่งเป็นนักเรียนศาสนาด้วย บอกไปว่าไม่น่าเชื่อว่า คุณจะเขลาถึงขนาดนี้ อุตส่าห์เรียนศาสนาถึงเมืองกุม เพียงแค่เขาอ้างฮะดิษมาแบบนี้ ตื่นเต้นถึงกับหลงไปเลย แต่สุดท้ายเตาบัตกลับตัวและไม่เชื่อมสัมพันธ์กับคนๆนี้อีกเลย
หลังจากนั้นผมก็ตามไปดูที่มาเลเซีย นัดพบพวกแอบอ้างนี้อีกครั้ง เพื่อไปตรวจสอบว่ามีการเผยแพร่เรื่องนี้ในมาเลเซียด้วยหรือไม่ พบว่านักเรียนศาสนาของพวกเราที่นั้น ไม่ตอบรับ จึงโล่งอก เพราะรู้แล้วว่าไม่มีอะไร และ ปกติในมาเลเซียไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก
จะเห็นได้ว่า พวกบ้าบอ นั้น มีอยู่ทุกที่ทุกแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เมื่อมีพวกบ้าบอเพียงไม่กี่คนเกิดขึ้น ซึ่งพวกหนึ่งที่เราเห็น คือ บ้าดุนยา เห็นแก่เศษเงินเศษทอง เห็นแก่ผลประโยชน์ของดุนยา เพื่อแลกกับการเผยแพร่แนวทางอันเป็นเท็จ ยอมทำให้ศาสนาหม่นหมอง
ความจริงกลุ่มคนพวกนี้เคยประกาศตัวมาแล้วเมื่อ 15 ปีก่อน สำหรับในภูมิภาคของเรานั้น เพิ่งเข้ามาประมาณ 5 ปี ที่เรารู้เพราะอยาตุลลอฮ์ซิสตานีเคยฟัตวามาเกือบ 15 ปีแล้ว ว่าห้ามเข้าไปยุ่งอย่างเด็ดขาด
(โปรดติดตาม ตอนที่ 3 )
♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔
สกู๊ปพิเศษ” เปิดโปงเบื้องหลังผู้แอบอ้างเป็นซัยยิดยะมานี
ถอดความโดย ซัยหนับ บินตี นาบาวี
♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔