ปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ บทที่ ๑/๕ มัจญลิสอิมามฮูเซน (อ.)
ค่ำที่ ๑ มุฮัรรอม ฮ.ศ. ๑๔๔๐ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๑
บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
● ปฐมบทการร้องไห้ให้กับอิมามฮูเซน(อ)
ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ ท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) คือ บุคคลแรกที่ร้องไห้ ส่วนท่านที่ร้องไห้คนต่อมา คือ ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ) ถัดมาคือ ท่านอิมามอาลี(อ) ถัดมาอีก คือ ท่านซัลมาน อัลฟาร์ซี
แหล่งอ้างอิง : สาวกของท่านศาสดา 7 คนที่รายงานเรื่องนี้คือ ท่านอาลี, อะนัส บิน มาลิก, อุมมุลฟัฎลิ บินติลฮาริษ,อาอิชะฮ์,อุมมุ สะละมะฮ์,อบู ตูเฟล และอิบนุอับบาส และฮะดีษเรื่องนี้ เกือบถึงสถานะ มุะวาติร และเชคอัลบานีย์ ได้ตรวจสอบสารบบสายรายงานฮาดีษ(วจนะศาสดา)เหล่านั้นทั้งหมด และเขาได้วิจารณ์ว่า มีสถานะ ถูกต้อง
ดูหนังสือ ซิลซิละตุล อะฮาดีษ อัซ-ซอฮีฮะฮ์ เล่ม 3 : 159 ฮาดีษที่ 1171
● บุคคลที่เปิดเผยปฐมบทของการร้องไห้
ท่านซัลมาน อัลฟาร์ซี คือ บุคคลที่เปิดเผยบุคคลที่เป็นปฐมบทของการร้องไห้ให้กับอิมามฮูเซน(อ) คือ ท่านศาสดามูฮัมหมัด(ศ็อลฯ โดยท่านซัลมาน อัลฟาร์ซี บอกว่า
“เมื่อฉันได้ยินข่าวว่า ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ซาลามุลลอฮูอาลัยฮา ได้คลอดบุตรคนที่ 2
ด้วยความดีใจ ฉันจึงวิ่งไปที่บ้านของท่าน พร้อมขออนุญาต ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เพื่อจะแสดงความยินดี ซึ่งในนั้นมีท่านศาสดา ท่านอิมามอาลี(อ) ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)นั่งอยู่ และมีอิมามฮูเซน(อ)อยู่ในอ้อมกอดของท่านหญิง แต่ที่ท่านเห็น กลับกลายเป็นทุกคนกำลังร้องไห้
ด้วยความตกใจ จึงถาม “ยารอซูลุลลอฮฺ เกิดอะไรขึ้น ฉันมาด้วยความดีใจ มาเพื่อจะแสดงความยินดีที่ท่านได้หลานชายคนที่ 2 แต่ทำไมทุกๆคนกลับร้องไห้ ทำไมบรรยากาศในบ้านหลังนี้ ทั้งๆที่ในวันนี้เป็นวันแรกของการถือกำเนิดของอิมามฮูเซน(อ)กลายเป็นวันแห่งความโศกเศร้า”
ยารอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ตอบว่า โอ้ !!! ซัลมาน เอ่ย ที่ฟาฏิมะฮ์(อ) ที่อาลีร้องไห้ เพราะฉันได้บอกพวกเขาว่า เมื่อสักครู่ญิบรออีลได้ลงมาตะฮ์ซียะฮ์ (แสดงความเสียใจ) บอกว่า อัลลอฮ(ซบ)ได้สั่งให้ฉันลงมาเล่าเรื่องต่างๆที่จะเกิดกับเด็กน้อยคนนี้
หมายเหตุ : ญิบรออีล ได้เล่าให้ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ฟังว่า อัลฮูเซนจะถูกสังหารที่ริมฝั่งน้ำฟูรอตและเล่าเรื่องราวต่างๆ
คำถาม : เรื่องหนักขนาดไหน
ในรีวายัตบอกว่า เรื่องนี้หนักขนาด ในเบื้องต้น เมื่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)ได้ยินที่นบีเล่าว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับเด็กน้อยคนนี้ ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะรอ(อ)ร้องไห้ แล้วยื่นทารก แล้วกล่าวว่า เอาเด็กคนนี้กลับไปเถิด ถ้าเขาจะต้องทุกข์ทรมานในโลกดุนยาถึงขนาดนี้ เอากลับไปเถิด ฉันไม่เอา
รอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ตอบว่า แต่ถ้าเจ้ารับสิ่งนี้ “นบีพูดถึงความประเสริฐ ฟาซีลัตต่างๆที่ท่านอิมามฮูเซน(อ)จะได้รับ และประโยคหนึ่งที่ท่านนบีพูด คือ การพลีครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพลีที่ยิ่งใหญ่ เพราะการพลีของลูกชายของเจ้าคนนี้ จะทำให้เกิดการปฏิวัติโลก และทำให้หลานคนสุดท้ายของเจ้านั้น ได้ปกครองโลกนี้ทั้งหมด
เมื่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะรอ(อ) ฟังดังนั้น จึงรู้ว่า มันคุ้มกับการพลีครั้งนี้
คำถามต่อมา : สิ่งนี้เกิดเฉพาะในยุคของนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) หรือ
คำตอบ รีวายัตของอะฮฺลุลเบต(อ) ยืนยันว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นและถูกเล่าขานต่อกันมา ตั้งแต่สมัยอะดัม(อ) ความจริงแล้วมีเป็นร้อยรีวายัต แต่เราจะเล่าเพียงบางรีวายัต
🔻 ความสัมพันธ์ระหว่าง นบีอะดัม(อ)กับแผ่นดินกัรบาลา
หนึ่งในรีวายัตจากบรรดาอะฮฺลุลเบต(อ) รายงานว่า ตอนที่ท่านนบีอะดัม(อ)ถูกขับออกจากสรวงสวรรค์หนึ่ง จากเบื้องบนลงมาสู่โลกนี้ โดยภรรยา “ฮาวา” ก็ถูกลงไปทางหนึ่ง ส่วนนบีอะดัม(อ)ก็ลงไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งสามีภรรยาทั้งสองนี้ จะต้องตามหากันให้เจอ สืบเนื่องจากถูกลงโทษจากเอกองค์อัลลอฮ(ซบ) ทำให้พลัดพรากจากกัน โดยทั้งสองต้องตามหากันเป็นระยะเวลาที่นานมาก
และในเส้นทางของการตามหานั้น ท่านนบีอะดัม(อ) ต้องเดินทางผ่านแผ่นดินกัรบาลา ทว่า เมื่อเดินทางถึงแผ่นดินกัรบาลา นบีอะดัม(อ)กลับหกล้ม จนหน้าคว่ำ ไปถึงขั้นหัวกระแทกหิน ทำให้เลือดที่หน้าผาก ไหลออกมา(หัวแตก) แต่สิ่งแรกที่นบีอะดัม(อ)กล่าว…ยาอัลลอฮ(ซบ) ฉันทำผิดอะไรอีก….
ท่านซัยยิดสุไลมาน ได้อธิบายเสริมว่า ถือเป็นเรื่องปกติของวลียุลลอฮฺ ที่สำรวจความผิดของตนเองก่อน เราเองก็เช่นกันควรดูเป็นตัวอย่าง หากวันใดรถชน ขาหัก รถล้ม ตกบันได หัวฟาด หรือเกิดอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องพิจารณา มีดังนี้
๑. เราทำผิดอะไร แต่ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจ เราอย่าไปตัฟซีรเรื่องของคนอื่นเขา เพราะไม่ใช่เกิดกับทุกคน แต่เฉพาะตัวเราเท่านั้น โดยให้สังเกตสิ่งเกิดขึ้นกับเรา ดั่งตัวอย่างข้างต้น ที่ว่า เมื่อถูกรถชน ผึ้งต่อย หรือ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เพื่อให้รู้ว่า เราทำผิดอะไร
๒. หากว่าเราหาไม่เจอ สำรวจไม่พบความผิด ก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺ และเมื่อมั่นใจว่า เราไม่ได้ทำผิดอะไร แต่เกิดมุษิบัตกับเรา นั่นหมายความว่าอัลลอฮ(ซบ)จะเพิ่มมะรีฟัต เพิ่มดารือญะฮ์ ให้กับเรา
สาระศึกษา : สิ่งแรกที่นบีอะดัม(อ)กล่าว…
“ยาอัลลอฮ(ซบ) ฉันทำผิดอะไร ทำไมต้องประสบเช่นนี้”
อัลลอฮ (ซบ) ตอบว่า เจ้าไม่ได้ทำผิดอะไรหรอก แต่ฉันจะให้เลือดของเจ้า หลั่งลงตรงแผ่นดินนี้ เพราะในอนาคตข้างหน้า จะมีผู้หนึ่ง ที่เลือดของเขามีค่าที่สุด มาหลั่งเลือด ณ แผ่นดินแห่งนี้ และที่เลือดของเจ้าควรจะผสมกับเลือดนี้ด้วย
คำอธิบาย : อัลลอฮ(ซบ) ทรงเพิ่มมะรีฟัตให้กับนบีอะดัม(อ) โดยทำให้ท่านนั้นหกล้มจนหัวแตก ณ แผ่นดินกัรบาลา นั่นเอง
ต่อมา นบีอะดัม(อ) ถามต่ออีกว่า ใคร อะไร แบบไหน ซึ่งในรีวายัตไม่ได้เขียนรายละเอียด บอกแต่เพียงว่า อัลลอฮ(ซบ)ได้เล่ามุษิบัตที่เกิดขึ้นที่กัรบาลาให้ท่านนบีอะดัม(อ)ฟัง
เป้าหมาย เพื่อจะบอกว่า มุษิบัตนี้ได้ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยนบีอะดัม(อ)และนบีท่านอื่นๆก็มีประสบเช่นนี้ทั้งหมด)
และหลังจาก อัลลอฮ(ซบ)ได้เล่ามุษิบัตทั้งหมดนี้ให้นบีอะดัม(อ) แล้ว นบีอะดัม(อ)ก็ได้ทำการสาปแช่งยะซีด
ตรงนี้ เพื่อให้รู้ว่า ยะซีดถูกทรงสาปแช่ง ตั้งแต่มันยังไม่เกิด โดยท่านนบีอะดัม(อ ) และเมื่อทำการสาปแช่งยะซีดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นบีอะดัม(อ)ก็เดินทางต่อจากกัรบาลา เพื่อไปหา “ฮาวา” จนกระทั่งไปเจอที่ “อารอฟะฮ์” ซึ่งสวนทางกัน เพราะในยุคสมัยของอิมามฮูเซน(อ) ท่านเดินทางมาจากอะรอฟะฮ์ เพื่อมุ่งสู่กัรบาลา
🔻 ความสัมพันธ์ระหว่าง นบีมูซา(อ)กับแผ่นดินกัรบาลา
ท่านนบีมูซา(อ) ก็เช่นกัน การเดินทางของท่าน ก็มาถึงยังแผ่นดินกัรบาลา ท่านเดินเท้ามาถึงกัรบาลา แต่เมื่อท่านมาถึงกัรบาลา รองเท้าของท่านหลุด ทำให้ท่านเหยียบหนาม จนเลือดโชก
ด้วยความตกใจ ท่านนบีมูซา(อ) จึงถามอัลลอฮ(ซบ) ฉันทำผิดอะไร ทำไมถึงต้องเหยียบหนามจนเลือดโชกขนาดนี้
อัลลอฮ(ซบ) ก็ตอบนบีมูซา(อ) เฉกเช่นที่ได้ตอบกับ นบีอะดัม(อ)
ครั้น เมื่อนบีมูซา(อ)ถามเรื่องราวที่มาที่ไป….
อัลลอฮ(ซบ)จึงอ่านมุษิบัตให้นบีมูซา(อ)ฟัง
เมื่อท่านนบีมูซา(อ)ได้ฟังแล้ว ท่านก็ได้ทำการสาปแช่งยะซีด
ข้อสังเกต : แม้แต่การเหยียบหนาม ตรงนี้ กรณีเรา ต้องระวังโดยเฉพาะหนุ่มสาว หากเหยียบหนาม ต้องหาความผิดให้เจอ และพึงรู้ไว้ว่า
“ถ้าอัลลอฮ(ซบ)ทรงเมตตาเรา พระองค์จะลงโทษทันที ถ้าไม่เมตตาจะลงโทษช้าลง แต่ถ้ายิ่งไม่เมตตา พระองค์จะไม่ลงโทษในโลกนี้ แต่จะไปลงโทษในโลกหน้าเลย”
ดังนั้น จำให้ดี ใครที่ถูกอัลลอฮ(ซบ) ลงโทษในบัดดลที่เขาทำผิด นั้นแสดงว่า เขาเป็นคนที่พระองค์รัก แต่ถ้าพระองค์ทำโทษช้าหน่อย แสดงว่าพระองค์รักน้อย แต่ถ้าใครไม่ถูกพระองค์ทำโทษ แสดงว่า พระองค์ไม่รักเขาแล้ว ค่อยไปคิดบัญชีรวดเดียวในอาคีเราะฮ์เลย
🔻 ความสัมพันธ์ระหว่าง นบีอิบรอฮีม(อ)กับแผ่นดินกัรบาลา
ก่อนอื่นต้องรู้ว่า การถือกำเนิดและวิถีการดำเนินชีวิตของบรรดาศาสดาในอดีตนั้น ล้วนวนเวียนไปๆมาๆ อยู่ในดินแดนแห่งนี้ เช่น คณาอัน บาบิโลน อิรัก ซีเรีย และปาเลสไตน์
กรณีนบีอิบรอฮีม(อ) ก็เช่นกัน ในขณะที่ท่านขี่ม้า เมื่อท่านเดินทางถึงกัรบาลา ท่านกลับตกจากหลังม้า กระแทกพื้นจนหัวแตก
ตรงนี้ ชี้ถึง บริบทการประสบเหตุของบรรดาศาสดา เหล่านี้เพื่อจะอธิบายในเรื่อง “ซิกรุลลิลอะลามีน”
ทว่า ในส่วนที่เราเข้าใจการรำลึกนั้น ยังอยู่ระดับขั้นเล็กน้อยเพียงเท่านั้น
ดังนั้น สิ่งที่ต้องการเน้น คือ “ซิกรุลลิลอะลามีน” นั้น ไม่มียุค ไม่มีสมัย เพราะเป็นการรำลึกมาก่อนเหตุการณ์จะเกิด ถึงขนาดที่ว่า ตั้งแต่มนุษย์คนแรกจุติลงมาในโลกนี้ ก็มีการรำลึกร้องไห้ เมื่อฟังมุษิบัตของท่านฮูเซน(อ)มาก่อนแล้ว
ข้อสังเกต : เมื่อ นบีอิบรอฮีม(อ)ตกจากหลังม้า หัวท่านแตก ก็ได้ถามอัลลอฮ(ซบ)ดั่งที่นบีอะดัม(อ) นบีมูซา(อ) ถามเช่นกัน
อัลลอฮ(ซบ) ทรงตอบเหมือนเดิม สรุปง่ายๆ โดยเล่ามุษิบัตเรื่องราวแห่งกัรบาลาให้ท่านนบีอิบรอฮีม(อ)ฟัง
เมื่อท่านนบีอิบรอฮีม(อ)เมื่อได้ฟังแล้ว ท่านก็ได้ทำการสาปแช่งยะซีด
ทว่า เรายังมีรีวายัตพิเศษ รายงานว่า ในระหว่างที่ท่านนบีอิบรอฮีม(อ) สาปแช่งยะซีดนั้น ม้าที่ท่านนบีอิบรอฮีม(อ)ขี่ก็กล่าว “อามีน” ด้วย
ส่วนของท่านนบีมูซา(อ)นั้น “ยูวซะ บินนูน” ที่เดินทางมากับท่าน ก็ได้กล่าวคำว่า “อามีน” ด้วยเช่นกัน
ตรงนี้เพื่อชี้ให้เห็นว่า ทุกๆนบี มีประสบการณ์มากมายหลายรูปแบบ และไม่เพียงเท่านี้ แม้กระทั่งบรรดาศาสดาทั้งหมดที่เลี้ยงแกะ ในรีวายัตบอกว่า ทุกครั้งที่หลายๆศาสดา ต้อนแกะไปในบริเวณที่เป็นแผ่นดินกัรบาลา ปรากฏว่า แกะจะไม่ยอมกินน้ำ และไม่กินหญ้า
บ่งบอกว่า การรำลึกนี้ แม้แต่ฝูงปศุสัตว์ก็ยังรำลึก ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ด้วยซ้ำไป
ดังนั้น หากพวกเรายังดำเนินชีวิตในเดือนมุฮัรรอมอย่างมีความสุข ในขณะที่เราบอกว่า เราเป็นชีอะฮ์ เราเป็นผู้ที่รักอิมามฮูเซน(อ) ถ้าเป็นเช่นนี้ เท่ากับว่าอากีดะฮ์ของเราต่ำกว่า ฝูงปศุสตว์ เพราะฮาดิษที่เป็นหลักฐานเรื่องราวจากหลายๆนบีมีประสบการณ์ กล่าวชัดเจนว่า ทำไม เมื่อฉันต้อนแกะ มาตรงบริเวณนี้ มันไม่ยอมกินน้ำ และไม่กินหญ้าในแผ่นดินกัรบาลา
และด้วยความฉงน ทุกนบี จึงถาม ยาอัลลอฮ เกิดอะไรขึ้น …
อัลลอฮ(ซบ) จึงตอบในสิ่งที่เกิดขึ้นที่กัรบาลา เพื่อให้พวกเรารู้ว่า ทุกๆศาสดาได้รับรู้เรื่องราวแห่งกัรบาลามาก่อนแล้ว เพียงแต่ในฮาดิษ ในรีวายัต ไม่ได้บอกว่า อัลลอฮ(ซบ)เล่าเรื่องอะไรบ้าง แต่ใช้คำว่า อัลลอฮ(ซบ)เล่ามุษิบัตแห่งกัรบาลาให้กับบรรดานบีเหล่านั้นฟัง
ดังนั้น ณ เวลานี้ ขออนุญาตเล่าบางเหตุการณ์ที่บรรดาศาสดา สงสัยว่า ทุกครั้งที่ต้อนฝูงแกะมา ที่แกะไม่ยอมกินน้ำในที่แห่งนี้ เป็นเพราะอะไร
คำตอบ : แกะจะกินน้ำตรงนี้ได้อย่างไร ในเมื่อแผ่นดินนี้ ไม่ให้น้ำแก่ลูกๆหลานๆท่านศาสดาดื่มกิน แม้แต่ลูกหลานศาสดาที่มีอายุเพียง 6 เดือน ที่ท่านอิมามฮูเซน(อ)อุ้มไปขอน้ำ เขายังตอบการขอน้ำของท่านอิมามฮูเซน(อ) ด้วยธนู 3 แฉก ที่ยิงไปที่คอหอยของทารกน้อยนาม “อาลี อัสกัร”
หมายเหตุ : เป็นการอธิบายข้อคลางแคลงสงสัย ให้เรารู้ว่า แกะและสัตว์พวกนี้ มีสัมผัสพิเศษรับรู้ทุกสิ่งล่วงหน้า มันจึงไม่ยอมกินน้ำ
– ทำไมนบีมูซา(อ) นบีอิบรอฮีม(อ) และบรรดานบีทั้งหลาย ต้องหกล้มและหลั่งเลือด
– ทำไม นบีอิบรอฮีม(อ) ผู้เป็นปู่คนแรกของอิมามฮูเซน(อ) ต้องตกจากหลังม้า
– ทำไม ม้า จึงทำให้นบีอิบรอฮีม(อ)ตกจากหลังของมัน
คำตอบ เพราะมันรู้ว่า วันหนึ่ง มนุษย์ที่สูงค่าที่สุดในมวลมนุษยชาติ จะตกลงจากหลังม้า ณ แผ่นดินแห่งนี้ ในขณะที่เลือดของเขาไหลโชก ซึ่งเลือดนี้ เป็นเลือดที่มีค่า เป็นเลือดที่จะชาฟาอัต มวลมุสลิม รวมไปถึงบรรดาคนที่ทำบาป และเป็นเลือดที่จะก่อการปฏิวัตติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จะต้องชะโลมลงบนแผ่นดินนี้
ด้วยเหตุผลนี้ ม้าจึงอยากให้ท่านนบีอิบรอฮีม(อ) หลั่งเลือดร่วมกับเลือดของท่านอิมามฮูเซน(อ)
● บริบทความแตกต่าง “การตกจากหลังม้า”
ท่านนบีอิบรอฮีม(อ)ตกลงมาโดยตัวเปล่า แต่หัวไปกระแทกกับหิน แต่อิมามฮูเซน(อ) ตกจากหลังม้า โดยมีธนูอยู่รอบตัวของท่าน
พี่น้องลองจินตนาการ คนที่ตกจากหลังม้า ในขณะที่มีธนูปักรอบตัว เมื่อตกจากหลังม้า จะเจ็บปวดขนาดไหน เพราะการตกลงจากม้ามาลักษณะนี้ เท่ากับธนูที่ปักบนลำตัวของท่าน แน่นอน ธนูที่ปักจนพรุน ยิ่งทิ่มเข้าตามตัวลึกเข้าไปอีก
โอ้ นบีอิบรอฮีม เอ่ย !!! เมื่อท่านอิมามฮูเซน(อ) ตกจากหลังม้า จงรู้เถิดว่า มันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ทว่าบรรดาศัตรูของอัลลอฮ(ซบ) ได้ทุบตี หลานของท่าน และทิ่มแทงหลานของท่าน ด้วยหอก ด้วยดาบ และด้วยท่อนเหล็ก จนท่านอิมานฮูเซน(อ)ไม่สามารถที่จะขยับตัวได้….
แล้วพวกมันคนหนึ่ง ล.น. ก็ได้ขึ้นไปนั่งบนอกของท่านอิมามฮูเซน(อ) แล้วก็เอามีดตั้งที่คอหอยหลานรักของศาสดา แล้วมันก็ได้เชือด จนศรีษะของท่านนั้นขาดสะบั้นลง…
لاحول ولا قوة الا بالله العلي العظيم
السلام عليك يا ابا عبد الله