ปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ บทที่ ๑/๔ มัจญลิสอิมามฮูเซน (อ.)
ค่ำที่ ๑ มุฮัรรอม ฮ.ศ. ๑๔๔๐ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๑
บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
คำสั่งเสีย(วาศิยัต)ของ ท่านอยาตุลลอฮนาญาฟี
๑.เสื้อดำที่ฉันใส่ในเดือนมุฮัรรอมและศอฟัร ในวันที่ฉันตายให้ฝังกับฉันด้วย
๒.ตัสเบี๊ยะดินกัรบาลาของอิมามฮูเซน(อ) ที่ฉันใช้อิสติฆฟารทุกๆสะฮัร ช่วงละหมาดตะฮฺญุด ต้องฝังไปกับฉันด้วย
๓.ผ้าเช็ดหน้าที่ฉันใช้ในเดือนมุฮัรรอม หรือที่ฉันใช้ในวันมุษิบัตต่างๆให้กับอะฮฺลุลเบต(อ)ตั้งไว้บนอกของฉัน ในวันที่ฝังฉันด้วย
๑.เสื้อดำที่ฉันใส่ในเดือนมุฮัรรอมและศอฟัร ในวันที่ฉันตายให้ฝังกับฉันด้วย
คำอธิบาย : ท่านได้สั่งเสียกับลูกชาย ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ซึ่งคำสั่งเสียนี้ในปัจจุบันในโซเชี่ยลนำมาเผยแพร่อย่างมากมาย
สาระศึกษา : ท่านใส่เสื้อดำ ตั้งแต่เดือนมุฮัรรอมจนถึงเดือนศฮฟัร
ถามว่า มาจากไหน
คำตอบ เมื่อใดที่เราค้นหาฮาดิษต่างๆ เราจะพบคำสั่ง คำขอร้องของบรรดาอะฮฺลุลเบต(อ)ให้รำลึกไว้ทุกข์ ไว้อาลัยให้กับอิมามฮูเซน(อ)จนถึงอัรบาอีน
เช่นนี้แล้ว ท่านอยาตุลลอฮนาญาฟี มัรอาชี จึงเป็นท่านหนึ่งที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ด้วยการสวมชุดดำทั้งเดือนมุฮัรรอมและอัรบาอีน
กลับมายังพวกเรา ในขณะที่พวกเราอ้างว่ามีความรักอะฮฺลุลเบตอย่างเหลือล้น ทว่ากลับอึดอัดถ้าไม่ได้ใส่เสื้อสีสรรต่างๆ เพราะทนไม่ได้ที่จะต้องใส่สีดำตลอดวันตลอดคืน บ้างกลัวว่าซุนนีจะรู้ว่าเราเป็นชีอะฮ์ และหลายๆเหตุผลที่พยายามจะอ้าง
ดังนั้น จงตระหนักเถิด ชีอะฮ์แบบนี้ จะนำมาซึ่ง ทั้งอัปยศและขาดทุน
ข้อสังเกต : ท่านอยาตุลลอฮนาญาฟี มัรอาชี อยู่ในระดับแกรนอยาตุลลอฮ ที่ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)ให้เกียรติเป็นอย่างมาก ท่านถึงขนาดสั่งเสียว่า…
“ให้นำเสื้อดำที่ฉันใส่ทุกๆคืนในเดือนมุฮัรรอมและศอฟัร ฝังลงไปในหลุมศพของฉันด้วย”
คำถาม : ทำไม ท่านอยาตุลลอฮ นาญาฟี มัรอาชี ถึงสั่งเสียเช่นนี้
คำตอบ : เป็นที่ทราบกันดีว่า ท่านเป็นอยาตุลลอฮฺระดับสูง ในด้านอัคลาคเป็นที่ยอมรับทั้งหมด ยังไม่ได้เชื่อมั่นในละหมาด ในวิชาการ ในความรู้ที่ได้รับใช้ประชาชน แต่ท่านกลับเชื่อมั่นในเสื้อดำ ที่แสดงการไว้ทุกข์ไว้อาลัยให้กับอะฮฺลุลเบต เพราะท่านบอกว่า…
“ฉันยังมีความหวังว่า เสื้อดำนี้อาจชะฟาอัตให้แก่ฉันได้”
ตรงนี้ เราไม่ต้องเข้าไปถึงในรายละเอียด ที่จะต้องเล่าฮะดิษ เล่ากรุอ่าน หรือต้องไปถึงขั้นตัฟซีร เพราะประชาชนอาจยังไม่เข้าใจ
ทว่านี่คือ ความหมายจากศาสนา ที่มาจากบรรดาอาเล็มอูลามาอฺ ได้ทำการค้นคว้ารู้แล้วว่า เสื้อดำที่ใส่ไว้อาลัย เสื้อดำที่ทำให้เราเศร้า เนื่องจากการไว้ทุกข์ให้กับอิมามฮูเซน(อ)นั้น “เสื้อดำนี้ ชะฟาอัตให้กับผู้สวมใส่ได้”
และพึงรู้ไว้ ท่านมิใช่ระดับอะวาม เพราะหากเป็นอะวามสวมใส่สีดำ เขาอาจจะคิดไปเองไปเรื่อย แต่ท่านเป็นถึงระดับแกรนมัรเญียะ ในภาษาอาหรับ เรียกว่า อยาตุลลอฮอุซมา
และเพื่อให้ว่า อุลามาอฺระดับนี้ การพูดการจา เขาระวังมาก ถ้าไม่ใช่เรื่องศาสนาต้องไม่เปิดเผย เพราะมันจะกลายเป็นแบบอย่างของศาสนา แต่เพื่อจะบอกให้รู้ว่าคนระดับนี้ยังเชื่อมั่นในชะฟาอัตของเสื้อดำ
แต่เราพบว่า เชคบางคน ที่เรียนศาสนามา 5 ปี 10 ปี กลับมีพฤติกรรมใส่เสื้อดำบ้าง ไม่ใส่บ้าง คือ มีความคิดว่าใส่ชุดดำก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ ซึ่งตอนนี้กระแสต่อต้านเกิดขึ้นสูง ด้วยเหตุนี้ จึงมีรายงาน “คำสั่งเสีย”(วาศิยัต)เหล่านี้ในบรรดาลูกๆของอาเล็มอูลามาอฺชั้นสูง
นี่คือ มรรคผลของการสวมเสื้อดำ เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญ เพราะมันชะฟาอัตให้กับผู้สวมใส่ได้
● วิถีการดำเนินของ ท่านอยาตุลลอฮ นาญาฟี มัรอาชี
ในเรื่องการแจกเงินคุม ด้วยกับท่านเป็นอยาตุลลอฮฺที่นำนมาซ ซึ่งหลังจากท่านนมาซ ท่านได้แจกเงินคุมุสให้กับนักเรียนศาสนาในเมืองกุม เป็นแถว(คิว)ยาวเป็นพันๆคน แต่ตัวท่านเองมิได้ใช้เงินเหล่านี้ ทว่าเงินส่วนตัวที่ท่านใช้นั้น ได้มาจากการรับจ้างละหมาดและถือศีลอด
นี้คือที่มาของเงิน ที่ท่านใช้ในเรื่องส่วนตัว อีกทั้งท่านไม่ได้ไปทำฮัจย์ด้วย
เมื่อมีคนถามท่านว่า ทำไมเป็นเช่นนี้
ท่านตอบว่า เงินคุมุส ฉันไม่มีสิทธิที่จะหยิบเอาไปทำฮัจย์ และด้วยกับเงินส่วนตัวของฉันเอง ฉันไม่มี “อิสติตออัต” ฉันไม่มีความสามารถที่จะไปทำฮัจย์
แต่ก็ยังมีพวกสุนัขนอกศาสนาได้เห่าหอนว่า พวกอูลามาอฺมัรเญียะ คือ พวกที่เก็บเงินคุมุส ,พวกที่กินคุมุส
ในเรื่องปัจจัยในการเดินทางของท่าน ตลอดระยะเวลาเกือบ ๑๐ ปีที่สัมผัสกับท่าน ท่านเช่ารถแท็กซี่สีส้มเดินทางมามัสยิด แม้ไปไหนมาไหน ท่านก็ไปกับแท็กซี่ประจำตัวคันนี้ เพียงคันเดียว ซึ่งถ้าผู้คนพูดถึงท่านในสมัยนั้น จะต้องจินตนาการ เห็นสภาพท่านนั่งแท็กซี่สีส้มเก่าๆ โดยไม่ได้ซื้อรถเบนซ์หรือรถหรูหราอะไร
เมื่อพิจารณาวิถีของท่าน เป็นที่ทราบกันดีว่า ท่าน คือ คนแจกเงินคุมุสให้กับนักเรียนศาสนาเป็นจำนวนหมื่นๆคน ทว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น กินข้าว กินอาหาร เดินทางไปไหนมาไหนของท่านนั้น มาจากเงินที่ได้จากการรับจ้างละหมาดและรับจ้างถือศีลอด ให้กับคนที่ขาด(มีรายละเอียด)
ส่วนอามั้ลอิบาดัตของท่าน ท่านกลับไม่หวัง แต่ท่านหวังในสิ่งที่ท่านมอบความรักให้กับอิมามฮูเซน(อ)
หมายเหตุ : ที่อยากจะเน้น คือ ท่านใส่เสื้อดำตั้งแต่มุฮัรรอมจนถึงศอฟัร
๒.ตัสเบี๊ยะดินกัรบาลาของอิมามฮูเซน(อ) ที่ฉันใช้อิสติฆฟารทุกๆสะฮัร ช่วงละหมาดตะฮฺญุด ต้องฝังไปกับฉันด้วย
คำอธิบาย : คำสั่งเสีย (วาศิยัต) ข้อที่ ๒ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอิมามฮูเซน(อ) ที่เราต้องรู้ เกี่ยวกับ” ตัสเบี๊ยะดิน” คือ ตัสเบียะดินที่มาจากกัรบาลา( ราคาไม่แพง ประมาณ 20-30 บาท)
ท่านบอกว่า “ตัสเบี๊ยะดินที่มาจากกัรบาลาของอิมามฮูเซน(อ)นั้น ที่ฉันใช้อิสติฆฟารทุกสะฮัร ช่วงละหมาดตะฮฺญุด ต้องฝังไปกับฉันด้วย”
หากพิจารณาในรายละเอียด จะเห็นว่า ท่านไม่ได้หวังในอิสติฆฟาร และไม่ได้หวังในนมาซตะฮฺญูด แต่ท่านหวังในดินกัรบาลาที่ท่านใช้ในการอิสติฆฟาร และที่ใช้ในตอนละหมาดตะฮฺญุด ให้ฝังไปกับฉันด้วย
คำถาม ท่านหวังในอะไร
คำตอบ ท่านหวังในชะฟาอัตของท่านฮูเซน(อ)
๓.ผ้าเช็ดหน้าที่ฉันใช้ในเดือนมุฮัรรอม หรือที่ฉันใช้ในวันมุษิบัตต่างๆให้กับอะฮฺลุลเบต(อ)ตั้งไว้บนอกของฉัน ในวันที่ฝังฉันด้วย
คำอธิบาย : คำสั่งเสีย (วาศิยัต)ข้อที่ ๓ ผ้าเช็ดหน้าที่ฉันใช้ในเดือนมุฮัรรอม หรือที่ฉันใช้ในวันมุษิบัตต่างๆให้กับอะฮฺลุลเบต(อ)ตั้งไว้บนอก ในวันที่ฝังฉันด้วย
สาระศึกษา : บรรดาอาเล็มอูลามาอฺจำนวนมากจะมีผ้าเช็ดหน้าเป็นการเฉพาะ และท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)ก็เช่นกัน ท่านมีผ้าเช็ดหน้าเฉพาะตัว ซึ่งหากสังเกต ในรูป ในโซเชี่ยล จะเห็นผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ท่านจะใช้ผืนนั้นผืนเดียวเพื่อเช็ดน้ำตา เวลาฟังมัจญลิซมุษิบัตของบรรดาอะฮฺลุลเลต(อ)
กลับมายังเรื่องคำสั่งเสียของ ท่านอยาตุลลอฮ นาญาฟี มัรอาชี ท่านสั่งว่า…
“ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ที่ฉันใช้ร้องไห้ให้กับท่านอิมามฮูเซน(อ) ปู่ของฉัน หรือที่ฉันใช้ร้องไห้ให้กับอะฮฺลุลเบต(อ)ที่น้ำตาของฉันได้ชุ่มอยู่ตลอดเวลานั้น ตั้งไว้บนอกของฉัน ในวันที่ฝังฉันด้วย”
ข้อสังเกต : ชีวิตทั้งชีวิตของท่านได้มอบหมายให้กับความรักที่มีต่ออะฮฺลุลเบต(อ) นับตั้งแต่การร้องไห้ การใส่ชุดดำ การไว้ทุกข์ไว้อาลัยให้กับอะฮฺลุลเบต มาจากการสั่งเสียของบรรดาอาเล็มอูลามาอฺ
และเราขอยืนยันว่า คำพูดทั้งหมดที่ท่านวาศิยัตนี้มาจากฮาดิษ มาจากความเข้าใจคัมภีร์อัลกรุอ่าน รวมไปถึงการเข้าใจในฮาดิษและรีวายัตต่างๆของอะฮฺลุลเบต(อ)
นี่คือ อาดับเบื้องต้นของการเข้าสู่ขบวนการนี้ (ซึ่งความจริงแล้วยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ) ที่เราจะให้พี่น้องรับรู้พอสังเขป ว่า 1 มุฮัรรอม จนถึง 10 มุฮัรรอม โดยเฉพาะเป็น 10 วันแห่งการไว้ทุกข์ไว้อาลัยนี้ เราจะต้องดำเนินชีวิตอย่างสำรวมตัว สำรวมตน พยายามควบคุมให้ตัวเรานั้นอยู่ในลักษณะของผู้ไว้ทุกข์ ให้อยู่กับการเศร้า
อย่างน้อยใน 40 วันนี้ พึงหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่จะทำให้เกิดความสนุกสนานโปกฮา และยิ่งการหัวเราะ ยิ่งจะต้องไม่ได้ยินจากพวกเราแม้แต่คนเดียว แต่เมื่อพลาดพลั้ง ก็กล่าวอัสตัฆฟิรุลลอฮฺ และตักเตือนกันไป
ฉะนั้น หากอาดับเบื้องต้นนี้ เรายังไม่ผ่าน อย่าฝันเลยว่า เราจะเข้าถึงอัคลาคของกัรบาลา และอย่าได้ฝันเลยว่า เราจะมีมะรีฟัตในกัรบาลา
นัยยะของมะรีฟัตในกัรบาลา เบื้องต้น หลังจากที่เราติดตามในเรื่องกัรบาลาแล้ว เราอยากจะเป็นชะฮีด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ อยากให้ชะฮีดเกิดขึ้นกับเรา นั้นแสดงว่า เราเริ่มมีมะรีฟัตกับขบวนการปฏิวัติของอิมามฮูเซน(อ)แล้ว
แต่กว่าจะไปถึงขั้นตอนนั้น อย่าได้ฝัน ถ้าเราไม่รักษาอาดับของการเข้าสู่มุฮัรรอม เราไม่พัฒนาไปสู่ขั้นตอนการมีอัคลาคของมุฮัรรอม ส่วนมะรีฟัตนั้นยังอีกไกล
และการรำลึกนี้ ไม่ใช่การรำลึกเพียงแต่ในยุคสมัยของเรา และไม่ใช่เป็นการรำลึกหลังจากเกิดเหตุการณ์ แต่การรำลึกนี้มันยิ่งใหญ่กว่านั้น เพราะเป็นการรำลึกแห่ง “ซิกรุลลิลอะลามีน”
السلام عليك يا ابا عبد الله
اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم