ทำไมมนุษย์ถึงกลัวความตาย ตอนที่ 1

993

 

ทำไมมนุษย์ถึงกลัวความตาย ตอนที่ 1

โดย ฮุจญตุลอิสลามซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
♔•●✺ اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم ✺●•♔

♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ ก่อนอื่นขอชูโกรเนี๊ยะมัตและเตาฟีกในวันนี้
ที่พวกเราทุกๆคนได้มาร่วมงานรำลึกถึงการจากไปของบุคคลที่เรารัก และของบุคคลผู้หนึ่งซึ่งมีความรักในแนวทางอะฮ์ลุลเบต(อ) เพราะว่าการได้ร่วมรำลึกวันครบรอบ 40 วัน การจากไปของผู้ศรัทธาโดยเฉพาะผู้ศรัทธาที่มีความรักต่ออะฮ์ลุลเบต(อ) นั้นถือว่าเป็นเตาฟีกที่สำคัญที่มีในฮะดิษและริวายัต
ดังนั้น การร่วมงานของบรรดามุอฺมินนั้นก็เป็นเตาฟีกสำหรับผู้ร่วมงาน มีผลบุญสำหรับผู้ร่วมงาน เขาไม่ได้มาอุทิศฮาดียะฮ์บุญให้กับผู้ที่จากไปเท่านั้น ตัวเราเองก็จะได้รับสิ่งนี้กลับไปด้วย โดยเฉพาะการรำลึกถึงการครบรอบการจากไป 40 วัน

นั้นในแนวทางอะฮ์ลุลเบต(อ)ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งผู้ที่จากไปและทั้งผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ถึงแม้นว่าเนื้อหาของงานอาจจะเป็นเนื้อหาแห่งความโศกเศร้า เนื้อแห่งการสูญเสีย เนื้อหาแห่งความเสียใจ เนื้อหาแห่งความอาลัย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นความตายอาจถือว่าเป็นเนี๊ยะมัตอันหนึ่งที่เอกองค์อัลลอฮฺ(ซบ) นั้นประทานให้กับมวลมนุษยชาติ
พี่น้องอาจจะงงไปว่าความตายคือ เนี๊ยะมัตอันหนึ่งได้อย่างไร

ความตาย เป็นเนี๊ยะมัตที่สำคัญ เป็นเนี๊ยะมันที่ยิ่งใหญ่ เป็นเนี๊ยะมัตที่ถ้ามนุษย์รู้ ถ้ามนุษย์เข้าใจ มนุษย์จะขอบคุณยังอัลลอฮ (ซบ) เป็นอย่างมากที่ได้สร้างความตายขึ้นมา

อินชาอัลลอฮฺ​ คืนนี้ เราจะทำความเข้าใจกับเป้าหมายปรัชญาของความตายว่า…
ความจริงแล้ว มันคืออะไรกันแน่ ?
ทำไม สิ่งนี้นั้น จึงเหมือนกับจะขัดแย้งกับชีวิตและขัดแย้งกับความต้องการของมนุษย์ส่วนมาก
ทำไม มนุษย์ เมื่อเกิดมาแล้ว จึงกลัวความตาย?
ทำไม มนุษย์เกิดมา เมื่อพูดถึงความตายแล้ว บางคนจะโกรธ บางคนจะไม่พอใจ บางคนจะรู้สึกท้อใจ และอะไรต่อมิอะไรอย่างมากมาย
สรุปอย่างง่ายๆ ก็คือว่า คนจำนวนมากมองความตายไปในทางด้านลบ ทั้งๆที่คำสั่งสอนในศาสนา ทั้งจากพระมหาคัมภีร์กุรอาน ทั้งจากอัลฮะดิษและ ริวายัตต่างๆนั้น ความตายนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบวกเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นเนี๊ยะมัตที่ยิ่งใหญ่ที่สำคัญอันหนึ่ง
ถ้าไม่มีความตายแล้วไซร้มนุษย์น่าสงสารเป็นอย่างมาก
ฉะนั้น ผู้ศรัทธาทุกๆคน จะต้องปรับแนวคิด ปรับความเข้าใจ จะต้องมองความตายในรูปแบบใหม่ ทั้งนี้นั้นไม่ได้หมายถึงทั้งหมด แต่คนส่วนมากจะเป็นแบบนี้ โดยความรู้สึกของเราเองเกือบทั้งหมดทุกๆคน เมื่อนึกถึงความตายเราจะหดหู่ เราจะท้อใจ เราจะหมดกำลังใจ เราจะอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย
บางคนถึงขั้นอาจจะแอบโกรธอัลลอฮฺ(ซบ) อยู่ในใจ เมื่อสร้างเราแล้วให้เกิดมาในโลกนี้แล้ว ทำไมต้องให้เราตายด้วย
อัลฮัมดุลิลลาฮ์ โลกนี้อัลลอฮฺ(ซบ)สร้างขึ้นมาก็พอหาความสุขได้ในโลกนี้ ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะอยู่ในสภาพไหน?

อยู่ในสถานภาพใด สามารถหาความสุขในโลกนี้ และเพราะสามารถหาความสุขในโลกนี้ได้ จึงทำให้มนุษย์จำนวนมากปฏิเสธความตายทุกคน ตรงนี้หมายถึงว่าจำนวนมาก ทุกคนหมายถึงมนุษย์จำนวนมาก ไม่ใช่เฉพาะคนรวยที่ไม่อยากตาย คนจนก็ไม่อยากตาย
เรื่องนี้ คือเรื่องจริงอันหนึ่งที่เราจะต้องยอมรับ จนขนาดไหนก็ไม่อยากตาย หรือไม่เพียงแต่จนหรือรวย คนแข็งแรงมีพลานามัยสุขภาพที่สมบูรณ์ก็ยังไม่อยากตาย คนที่เจ็บจะตายแล้วก็ยังไม่อยากตาย หมายความว่า….
บางคนอยู่ถึงขั้นที่ว่าป้อนข้าวให้กับตัวเองไม่ได้แล้วก็ไม่อยากตาย

บางคนถึงขั้นที่ว่าเคี้ยวอาหารเองไม่ได้แล้วก็ไม่อยากตาย ให้อาหารทางสายยางได้ก็ต้องให้ได้ตลอดไป
ถ้าเราจะพูดให้ละเอียด บางคนไม่สามารถที่จะชำระล้างตัวเองแล้วก็ไม่อยากตาย มีชีวิตอยู่มีคนป้อนอาหาร อีกคนคอยล้าง คอยเช็ด คอยถู คอยอุ้มไปอาบน้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างขยับไม่ได้สักส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายแล้ว ก็ยังไม่อยากตาย
เราจึงต้องหาคำตอบว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ แน่นอนกลไกในการสร้างมนุษย์มีความสุข ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ในสถานภาพใดก็มีความสุข คือ อัลลอฮฺ(ซบ)สร้างโลกนี้นั้นให้น่าหลงใหล ให้น่าหลงใหลสำหรับทุกคน คนที่ยากจนที่สุดก็หลงใหลในโลกนี้แบบคนยากจน คนที่ร่ำรวยก็หลงใหลในโลกนี้แบบคนที่ร่ำรวย
ซึ่งในกรณียกเว้นที่นำมาเป็นหลักฐานก็มีบ้าง เช่น การฆ่าตัวตาย คนฆ่าตัวตายนั้นคือ ผิดเป็นสิ่งที่ผิดปกติมีบ้าง
เมื่อสติเสียสติ คือ เป็นกรณีที่ผิดปกติที่ฆ่าตัวตาย เหตุผลที่ฆ่าตัวตายจริงๆแล้วเพราะว่า ผิดหวังในโลกนี้เขาจึงฆ่าตัวตาย คือเกี่ยวพันกับเรื่องต่างๆในโลกนี้ เกี่ยวกับความรู้สึกอันนี้ ความจริงแล้วในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนั้นมีมากมายหลายคำตอบ มีมากมายหลายรูปแบบ
ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจสักเล็กน้อย เพื่อเราจะได้ปรับทัศนะคติเกี่ยวกับเรื่องความตาย ถ้าเราเข้าใจความตายอย่างถูกต้องแล้ว วิถีชีวิตของมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เปลี่ยนแปลงในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวของมนุษย์เอง

เบื้องต้น ทำไมมนุษย์จึงมีทัศนะคติลักษณะนี้เกี่ยวกับความตาย
คำตอบ

ข้อที่ 1 ซึ่งอาจจะเป็นคำตอบที่ทิ่มแทงหัวใจของพวกเราทุกๆคน เป็นคำตอบในภาพ รวมๆ ว่า…
ทำไม มนุษย์ส่วมมาก จึงมีทัศนะคติแบบนี้ ทั้งๆที่ความตายในมุมมองของอิสลามทั้งในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ทั้งในฮะดิษและริวายัตต่างๆ นั้นเลิศหรูเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรถวิลหา เป็นสิ่งที่มนุษย์ควรจะเรียกหาเป็นอย่างมาก
คำตอบนี้อาจจะยังไม่ตรงประเด็นในการที่จะอธิบายความตาย คำตอบอันที่หนึ่งมาเป็นปัญหาความรู้สึกนึกคิด การมีทัศนะคติที่ไม่ถูกต้อง การมีทัศนะคติที่เป็นลบต่อความตายนั้น
คำตอบแรก เป็นคำตอบที่สำคัญคือ เพราะมนุษย์ส่วนมากนั้นไม่รู้
“أَكثَرَهُم لاَ يَعلَمُونَ”
“أكْثَرَهُمْ لا يَعْقِلونَ”อักสารูฮุมลายัชอูรูน

“أكْثَرَهُمْ يَسْمَعونَ” “أَكْثَرَهُمْ لَا يَشْكُرُونَ”
สิ่งที่ผิดสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่เกิดมาจากมนุษย์มาจากเหตุนี้ คือ เหตุเบื้องต้นก่อน

“أَكثَرَهُم لاَ يَعلَمُونَ”
ไม่รู้ คือไม่รู้ว่าจริงๆแล้วความตายคืออะไร ?
เมื่อไม่รู้ความจริง เมื่อไม่รู้สัจจะธรรมความตายทำให้เกิดการกลัว เกิดการรังเกียจ เกิดการมีทัศนะคติที่ผิด มีทัศนะคติไม่ถูกต้อง “لا يَعْقِلونَ” ไม่มีสติ ไม่มีสมอง ไม่มีปัญญา
คนที่กลัวความตาย คือ คนโง่ในทัศนะของอิสลาม
ในทัศนะของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน (ลายัชอูรูน) ขาดความลึกซึ้ง (อันนี้ผมแปลพอสังเขป เพราะไม่ได้จะมาตัฟซีรกุรอานอย่างละเอียดทั้งหมด)
(ลายัชอูรูน) ไม่มีความลึกซึ้งจึงไม่เข้าใจเรื่องราวต่างๆ อย่างลึกซึ้ง หรือ “يَشْكُرُونَ” ไม่รู้จักการขอบคุณ
เราต้องขอบคุณที่มีความตาย เราต้องขอบคุณที่อัลลอฮฺ(ซบ)ได้สร้างความตายขึ้นมา เราจะขอบคุณได้ก็ต่อเมื่อเรารู้ถึงความจริงของความตายว่า…

แท้จริงนั้นคืออะไร นั้นปัญหาแรกคือตัวเราต่างหาก

ปัญหาเพราะเราไม่พัฒนาความเข้าใจ ไม่พัฒนาจิตวิญญาณ ไม่พัฒนาสมองของตัวเอง ไม่พัฒนาให้ตัวเองนั้นได้เข้าใจเรื่องราวต่างในศาสนาให้ลึกซึ้ง ทัศนะคติที่ผิดจึงเกิดขึ้น และทุกคนก็ยอมรับ
ตัวอย่าง
มีญาติบางคนที่แก่ๆ อายุ 80-90 พอพูดเรื่องความตายแล้วโกรธก็มี มนุษย์มีความรู้สึกว่าอยากจะอยู่ในโลกนี้ตลอดไป ไม่อยากจากไป ทั้งๆที่ ถ้าเขารู้สัจธรรมของความตายเขาจะต้องขอบคุณอัลลอฮฺ(ซบ) ที่ได้สร้างความตายให้มี และความตายคือสิ่งที่อัลลอฮฺสร้าง
ความตายคือสิ่งหนึ่ง ความตายไม่ใช่การดับสูญ ไม่ใช่สูญเปล่า ไม่ใช่การไม่มี เพราะในคัมภีร์อัลกุรอานใน(ซูเราะฮ์มุลกฺ) ที่เราเรียกโดยทั่วไปว่า “ซูเราะฮ์ตะบาร่อกัลละซี” (ซูเราะฮ์มุลก์/2)

อัลลอฮฺ(ซบ) ได้กล่าวสรรเสริญพระองค์เอง และได้ประกาศโฆษณาตัวเองว่า…

“الَّذِي خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَيَاةَ لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا وَهُوَ الْعَزِيزُ الْغَفُورُ”

พระองค์ผุ้ทรง “خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَيَاةَ” ผู้ทรงสร้างความตาย และผู้ทรงสร้างชีวิต
ตรงนี้นักการศาสนามูฟัซซีรีนตัฟซีร ได้ทำการอธิบายในเชิงปรัชญาว่า …
โองการนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า….
ความตายคือสิ่งหนึ่ง ความตายไม่ใช่ความว่างเปล่า เพราะเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺ(ซบ)นั้นบอกว่า…ฉันสร้าง สร้างทั้งชีวิต และสร้างทั้งความตาย
“الَّذِي خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَيَاةَ” ให้ตายให้มีชีวิต
ดังนั้น ถ้าเราถามว่าทำไมต้องสร้างชีวิตแล้วต้องสร้างความตายอีก?
อัลลอฮ(ซบ) เป็นผู้ตอบคำถามนี้เองในโองการนี้ คำตอบมีมากเป็นหนึ่งในคำตอบที่มีอยู่ในพระมหาคัมภีร์อักุรอานก็คือ…

“لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا” เพื่อที่จะทำการทดสอบ เพื่อที่จะได้รู้ เพื่อมีชีวิตและมีความตายนี้แหละเป็นเครื่องมือในการทดสอบมนุษย์ว่า…

ใคร?? ผู้ใด?? ไหน?? “أَحْسَنُ عَمَلًا” ใครที่มีอามั้ลที่ดีที่สุด
ฉะนั้น หนึ่งในปรัชญาที่กำหนด หรือสร้างความตายขึ้นมานั้น เพื่อที่จะได้รู้ว่า ใครคือคนดี?? ใครดีกว่า?? และใครดีที่สุด??
ดังนั้น อัลลอฮฺ(ซบ.)ก็ปิดโองการนี้ อายะฮ์นี้ ก็ด้วยคำที่น่าสนใจและตัฟซีรว่า….
“وَهُوَ الْعَزِيزُ الْغَفُورُ” “الْعَزِيزُ” คือมีทรงอำนาจ ทรงพลังที่จะทำสิ่งนี้ได้
แต่ว่า “الْغَفُور” ไม่ต้องกลัวพระองค์นั้นทรงอภัยในสิ่งที่มนุษย์กระทำ
ถ้าเราจะถามว่าเพื่ออะไร?? ให้ตายเพื่อที่จะรู้ว่า ใครดีที่สุด??
ใครมีอามั้ลที่ดีที่สุด “أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا” เราลองตอบดูว่าทำไม?
อัลลอฮฺ(ซบ) ทรงต้องการที่จะให้รู้ว่าใครในหมู่มนุษย์ที่จะถูกสร้างขึ้นมานั้น ใครคือบุคคล ใครคือผู้คนที่มีอามั้ลที่ดีที่สุด
ถามว่าต้องการจะรู้เพื่ออะไร??

คำตอบ คือ เพื่อตอบแทนความดี

โปรดติดตามตอนที่ 2

♔•●✺ اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم ✺●•♔

♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔

เรื่อง ทําไมมนุษย์ถึงกลัวความตาย

สถานที่ ฮูซันนิยะฮฺ อัซซะฮฺรอ (อ) อ.ควนโดน จ.สตูล.

ในงานสี่สิบวัน (อัรบะอีน) มัรฮูมยะฮ์ยา บินริฮ์ เมื่อ 12 สิงหาคม 2557

ถอดบทความโดย คุณ ฮาซานะฮ์ บินตี อับดุลฆอนี

♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔♔