มัคลูกหนึ่ง ที่ถูกเทิดเกียรติ ทั้งชั้นฟากฟ้าและชั้นแผ่นดิน..
♡ เป็นแก้วตาดวงใจแห่งศาสดา
เป็นเทียนทองส่องทางผู้ศรัทธานิรันดร์♡
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡
● ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) คือ แบบฉบับแห่งกุลสตรี
เรื่องสุดท้ายที่จะนำเสนอ ก่อนจะไปสู่หัวข้อพิเศษสุดของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺซะฮฺรอ(อ) ถือเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรีโดยตรง คือเรื่อง “อิฟฟะฮฺ(การรักนวลสงวนตัว)”
อิฟฟะฮฺ(การรักนวลสงวนตัว) สำหรับสตรีแล้ว ถือเป็นจารีตของการรักษาพรหมจรรย์ไว้จนถึงวันแต่งงาน เช่นนี้แล้ว การเป็นผู้หญิงมุสลิมที่เพรียบพร้อมด้วยความดี ต้องเป็นแบบไหนที่พระองค์อัลลอฮ(ซบ)ทรงพึงพอใจ
เราจะมาพิเคราะห์บุคลิกภาพของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ) ด้วยกับบุคลิกภาพอันงดงามของท่านหญิง นับเป็นอีกมิติหนึ่งที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ความเหนียมอายและจริตแห่งกุลสตรีของท่านหญิง คือ ผู้ที่คู่ควรได้รับการเชิดชูอีกทั้งเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเป็นแบบอย่างสำหรับมวลสตรี
ดังนั้น เมื่อศึกษาบริบทการดำรงชีวิตของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) ชัดเจนว่า การเป็นผู้หญิงมุสลิมที่เพรียบพร้อมด้วยความดีต้องดูและเรียนรู้วิถีการดำเนินชีวิตจากท่านหญิง ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากพลาดนิดเดียว แน่นอนว่า ชีวิตของเราดิ่งลงนรกทันที
ช่วงหลังๆเท่าที่สังเกต มุสลีมะฮฺไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ เราพบว่า พ่อแม่จำนวนหนึ่งปล่อยปละละเลยต่อเรื่องนี้ ความจริงแล้วขอบเขตที่มุสลีมะฮฺต้องระวังมีอยู่มากในที่นี้ เราขอยกบางตัวอย่าง ดังนี้
● ตัวอย่าง เรื่องน้ำหอม
จำเป็นต่อสตรีทุกคน ต้องไม่ใส่น้ำหอมในขณะจะออกจากบ้าน เพราะหากใส่น้ำหอม กลิ่นหอมของผู้หญิง เมื่อเข้าจมูกชายแปลกหน้า นางจะถูกสาปแช่งโดยมะลาอิกะฮฺ จนกว่ากลิ่นหอมที่ติดตัวนั้นจะหมดไป
แต่วันนี้เหล่าสตรีทั้งหลายกลับมองหาน้ำหอมกลิ่นที่ฉุนที่สุด บางคนหากลิ่นความหอมที่แตะจมูกนานที่สุดมาฉีดเพื่อที่ว่าเวลาไปไหน กลิ่นของน้ำหอมนั้นจะได้กระจายไปมากที่สุด ถามว่า แบบนี้หรือคือมุฮิบบีนของท่านหญิง แต่เป็นเพราะติดค่านิยมสังคมบริโภคนิยมวัฒนธรรมที่เลวทราม (นิยมสังคมตะวันตก) ทำให้เราเฉยเมย จนถึงขั้นปล่อยลูกหลานของเรามากจนเกินไป จึงทำให้ลูกอยากเลียนแบบในวัฒนธรรมของผู้อื่น
ดังนั้น เกี่ยวกับกลิ่นหอมของสตรี เพื่อย้ำเตือนว่า เมื่อใดที่กลิ่นหอมโชยไปถึงจมูกของชายแปลกหน้า เธอคนนั้นจะถูกสาปแช่งจากอัลลอฮฺ(ซบ) ที่ยกตัวอย่างนี้ เพื่อที่ต่อไปเราจะได้ระมัดระวังกับสิ่งต่างๆเหล่านี้
และอีกเศษเสี้ยวหนึ่งจากวิถีชีวิตและความสูงส่งของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) ซึ่งบรรดาสตรีทั้งหลาย ควรศึกษาค้นคว้าชีวประวัติของท่านหญิง เพื่อจะได้นำคุณลักษณะที่ดีงามเหล่านี้มาถือปฏิบัติ
● ตัวอย่าง ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)กับชายตาบอด
มีรายงานหนึ่งกล่าวว่า ในขณะที่ท่านหญิงฟาฏิมะฮ(อ) ได้นั่งอยู่กับท่านศาสดามูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) มีชายตาบอดคนหนึ่งได้ขออนุญาตเข้าไปในบ้านของท่านหญิง และวันนั้นท่านหญิงได้สวมใส่ฮิญาบและเสื้อคลุมปกปิดร่างกายจนมิดชิดอยู่ แต่เมื่อมีชายอื่นถึงแม้ตาเขาบอดจะขอเข้ามาในบ้าน ท่านหญิงกลับถอยไปอยู่หลังม่านและรูดม่านปิด ซึ่งท่านนบีมูฮัมหมัด(ศ็อลฯ) รู้ดีว่า ทำไมท่านหญิงทำเช่นนั้น
ในที่นี้ เราต้องการให้มุสลีมะฮฺเข้าใจบริบทการระมัดระวังของท่านหญิง…เมื่อท่านศาสดา(ศ็อลฯ) เห็นเช่นนั้นจึงถามว่า…
“ทำไมเจ้าต้องปกปิดร่างกายในเมื่อชายคนนี้ตาบอดและไม่สามารถมองเห็นเจ้าได้?”
ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) ตอบว่า “ถึงแม้เขาจะไม่สามารถมองเห็นฉัน แต่ฉันมองเห็นเขา และถึงแม้เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด แต่เขาสามารถได้กลิ่น ฉันรังเกียจที่จะให้ชายแปลกหน้าได้กลิ่นกายจากตัวฉัน”
จากตัวอย่างนี้ เป็นที่ชัดเจน อย่าว่าแต่ได้เห็นท่านหญิงเลยแม้แต่กลิ่นกาย ท่านหญิงก็ยังไม่ปรารถนาให้ใครมาได้สัมผัส
เมื่อได้ฟังดังนั้น ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ็อลฯ)ก็ได้กล่าวว่า “ขอให้พ่อของนางได้พลีเพื่อนางด้วยเถิด”
ตรงนี้ลองพิเคราะห์ดูว่า บิดาของท่านพอใจกับคำพูดของบุตรีของท่านขนาดไหน แต่สำหรับพวกเรา คงไม่ต้องถึงขนาดท่านหญิง ขอเพียงอย่าได้หลงหรือยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ อย่าเลือกสีเสื้อเพื่อให้ผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวดูก็พอแล้ว
ดังนั้น ต้องตระหนักด้วยว่า ถ้าเราปฏิบัติในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ท่านหญิงปฏิบัติ เราจะกล้าบอกกับอัลลอฮฺ(ซบ)หรือ… เรากล้าพูดคำนี้กับพระองค์ไหมว่า “เราคือผู้ที่มีความรัก ต่อท่านหญิง เราจะลงนรกไม่ได้”
ฉะนั้น ประโยค “ผู้ที่มีความรักต่อท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ)” นี้มันยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก เราต้องให้ความสำคัญต่อสิ่งเหล่านี้ ที่เราสำทับอย่างนี้ เพราะในสังคมปัจจุบันประเด็นการแต่งตัวเพื่ออวดโฉม เราพบว่าพ่อแม่บางคน นอกจากไม่ห้ามปรามแล้ว ยังสนับสนุนช่วยตัดชุดให้ลูก พ่อแม่บางคนแต่งตัวลูกสาวเพื่ออวดความงามราวกับไก่แจ้ มีให้เห็นกันบ่อยครั้ง ซึ่งหากสังเกตบางคนเวลาไปมัสยิดหรือร่วมมัจญลิซ กลัวน้อยหน้า จัดแจง จัดหาให้ลูกสวมเสื้อที่เด่นที่สุด สวยที่สุด
ถามว่า ท่านหญิงเคยทำสิ่งต่างๆเหล่านี้หรือ…คำตอบ คือ ไม่เคย !!! แล้วเราจะอ้างว่า ท่านหญิงไม่ได้บอกให้ตามท่าน มีใครกล้าพูดคำนี้ไหม แน่นอน เราไม่มีวันทำตามท่านทั้งหมดได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “จงพิสูจน์คำพูดด้วยการกระทำ”
ดังนั้น สตรีมุสลิมควรอย่างยิ่งที่จะนำมรดกอันล้ำค่าของท่านหญิงนำมาใช้ และมิควรตามแบบอย่างค่านิยมของพวกตะวันตกหรือตะวันออกก็ตาม เพราะเรามีแบบอย่างที่สมบูรณ์ที่ถูกแสดงโดยประมุขหญิงแห่งสากลจักรวาล
ฉะนั้น หากจะ “พิสูจน์คำพูดด้วยการกระทำ” จึงมีคุณลักษณะต่างๆ อันงดงามทางด้านจริยธรรมของท่านหญิงนั้นเป็นประเด็นที่ชัดเจนยิ่งอย่างมากมาย
● ตัวอย่าง : “การพิสูจน์คำพูดด้วยการกระทำ”
– การแต่งตัว เมื่อจะออกจากบ้าน เราพิสูจน์ตัวเรา ด้วยการสวมเสื้อผ้าในแบบของผู้ที่มีความรักต่อท่านหญิง
– การพูดจา เมื่อพบเจอกับผู้ชายแปลกหน้า เราก็ต้องพูดจาและปฏิบัติตัวในแบบผู้ที่มีความรักต่อท่านหญิง
– การบริจาค หากสังเกตผู้ที่มีความรักต่อท่านหญิงในสังคมแห่งยุคสมัย ในแบบฉบับการถอดสร้อยคอทองคำฝังเพชรมาบริจาค เราพบว่า การบริจาคลักษณะนี้เกิดขึ้นแล้วและเป็นไปได้แล้ว ที่ผู้หญิงจะถอดสร้อยคอของตัวเองไปบริจาค เพราะตัวอย่างนี้เกิดขึ้นแล้วและเกิดมานานแล้วด้วย
– ความกล้าหาญ ทุกวันนี้ เราได้แบบอย่างความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวของท่านหญิง ในที่นี้ เราจะยกอีกกรณีหนึ่ง ที่ท่านหญิงได้ปกป้องท่านศาสดา(ศ็อลฯ)จากบรรดา ผู้ตั้งภาคี(มุชริกีน)ชาวมักกะฮฺ อีกทั้งท่านไปยังสนามรบในสงครามอุฮุดเพื่อทำบาดแผลให้แก่ท่านศาสดา(ศ็อลฯ)
นี่คืออีกเสี้ยวหนึ่งแห่งความกล้าหาญของท่านหญิงที่เราต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำให้ได้
บรรยายพิเศษโดย
ฮุจญะตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
มัจญลิซ ค่ำคืนที่ 20 ญะมาดิษษานี = 18 มีนาคม 2560(ค่ำลง)
ติดตามอ่านต่อ วันคล้ายวันประสูติ ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ)และ วันคล้ายวันสมภพ ท่านอยาตุลลอฮฺ ซัยยิดรุฮุลลอฮ มูซาวี โคมัยนี(รฎ.) (ตอนจบ)