อัลฮัมดุลิลละฮฺ ขอชุโกรในเนี๊ยะมัตและเตาฟีกในค่ำคืนแห่งความยิ่งใหญ่ ค่ำคืนแห่งความสำคัญที่จะทำให้พวกเรานั้นได้เก็บเกี่ยวเป็นทุนในวันกิยามะฮฺ ค่ำคืนแห่งการรำลึก การไว้อาลัยแสดงความโศกเศร้าเสียใจและความจงรักภักดีให้กับมัคลูคหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ เอกองค์อัลลอฮ(ซบ)
ซึ่งถ้าไม่มีสตรีผู้นี้ก็จะไม่มีสรรพสิ่งใดๆ บังเกิดขึ้นมา การรำลึกถึงค่ำคืนของการเป็นชะฮาดะฮฺของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) นั้น มีสองรายงานด้วยกัน ทั้งสองรายงานก็มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ยังไม่เคยปรากฏว่า มีอาลิมอุลามาอฺท่านหนึ่งท่านใดที่จะชี้ชัดหรือฟันธงให้กับค่ำคืนใดจากสองค่ำคืนในการเป็นชะฮาดัต ซึ่งแน่นอนย่อมมีเหตุผลและนัยยะมากมายหลายประการ
ริวายัตจำนวนหนึ่งได้กล่าวว่า หลังจากการจากไปของท่านรอซูลุลลอฮฺ(ซล) ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) มีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงแค่ 75 วัน ซึ่งถ้ายึดถือตามริวายะฮฺแรกก็จะตรงกับค่ำคืนที่ 13 ญะมาดิลเอาวัล ส่วนอีกริวายะฮฺหนึ่งได้รายงานว่า ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) มีชีวิตต่ออีก 95 วันหลังจากการวะฟาตของรอซูลุลลอฮฺ(ซล) ซึ่งจะตรงกับวันที่ 3 ของญะมาดิซซานีย์ เพราะฉะนั้นสองเดือนนี้ จึงเป็นเดือนแห่งการรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ)
ในการรำลึกครั้งแรก ในภาษาจะเรียกว่า ‘สิบครั้งที่หนึ่ง’ การรำลึก ‘สิบครั้งที่หนึ่ง’ คือ ตั้งแต่วันที่ 10 ถึง วันที่ 20 ของเดือนญะมาดิลเอาวัล ทุกๆ สถานที่ในประเทศอิหร่าน เลบานอน อิรัก ปากีสถาน หรือในอินเดีย ที่มีประชากรชีอะฮฺจำนวนมากหลายล้านคนนั้นก็จะมีการรำลึกในลักษณะนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของการรำลึกท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) เป็นจำนวน 10 วันติดต่อกัน หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่การรำลึก ‘สิบที่สอง’ อีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นจริงๆ แล้วเป็นการรำลึกอย่างน้อยที่สุดถึง 20 วัน 20 คืน
เรื่องราวของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) เป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และลึกลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก แทบจะกล่าวได้ว่า เท่าที่เรามีความเข้าใจ……. มีมะอฺรีฟัตในเรื่องราวของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ( อ) ทุกแง่มุมแล้ว เราก็จะเข้าใจศาสนาอันบริสุทธิ์มากเท่านั้น หมายความว่า หากเรารู้จักท่านหญิง ฟาฏิมะฮฺ(อ) มากเท่าไร เราก็รู้จักศาสนาอันบริสุทธิ์นี้มากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น ในช่วงเวลาเหล่านี้ วิถีชีวิตของเรา ควรที่จะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อย่าให้มีวิถีชีวิตที่เดิมๆ เราจะต้องแสดงตน แสดงตัวให้เป็นผู้รำลึกที่สมบูรณ์อย่างแท้จริงให้ได้
ถ้าเราตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้าในแบบฉบับของบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)นั้น เราก็จะพบว่าการรำลึกถึงท่านหญิงมิได้ แตกต่างกับการรำลึกถึงท่าน อิมามฮูเซน(อ) มากนัก ถึงจะน้อยกว่าท่านอิมามฮูเซน(อ) แต่ก็ไม่ได้น้อยไปจนกระทั่งเห็นความแตกต่างได้ เพราะเมื่อมีโอกาส บรรดาอะอิมมะฮฺ(อ) ก็จะใช้โอกาสนั้นทันทีในการให้ผู้ศรัทธาได้หวนรำลึกถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการรำลึกถึงท่านหญิง(อ) มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ยิ่งรำลึกถึงท่านหญิง(อ) มากเท่าใด ก็จะยิ่งมีผลต่อการดำเนินชีวิตมากเท่านั้น
เหตุการณ์ในยุคสมัยอิมามศอดิก(อ) ได้บันทึกว่า เมื่อสาวกของท่านได้หายหน้าหายตาเป็นเวลาหลายวัน เมื่อมาพบเจอกับสาวกคนนั้นก็ได้ถามว่า “เจ้าหายไปไหนมา ทำไมฉันไม่เห็นหน้าเจ้าหลายวัน ??”
สาวกคนนั้นตอบว่า “พอดีภรรยาของฉันคลอดบุตร ฉันจึงวุ่นอยู่ ในบ้าน หลายวันเลยไม่ได้มารับใช้และมาพบเจอท่าน” เมื่อท่านอิมามได้ยินในคำตอบ ก็ถามว่า “อัลลอฮ(ซบ) ได้ประทานบุตรหญิงหรือบุตรชาย??” สาวกก็ตอบว่า “อัลฮัมดุลิลละฮฺ พระองค์ประทานบุตรีให้กับฉัน” “แล้วเจ้า ตั้งชื่อเขาว่าอะไร??” ตอบว่า “ฟาฏิมะฮฺ” ท่านอิมาม(อ) ได้อุทานขึ้นมาว่า…“ฟาฏิมะฮฺ ฟาฏิมะฮฺ ฟาฏิมะฮฺ” แล้วท่านก็เริ่มหลั่งน้ำตา จากนั้น ก็ได้สั่งเสียกับสาวกว่า “จงดูแลเด็กน้อยคนนี้ให้ดี อย่าทุบตี อย่าพูดคำหยาบกับนาง” สาวกได้ถามว่า “ทำไมท่านถึงได้สั่งเสียถึง ขนาดนี้” อิมาม(อ) ตอบว่า “เพราะเจ้าของชื่อนี้ได้ถูกประณาม ถูกทุบตี ถูกรังแกมามากแล้ว……!!! ”
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปาฐกถา เนื่องในวันคล้าย วันชะฮาดัตท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ) ภายใต้ชื่อ “บี อบี อันติ วะอุมมี ”
(บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี)……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ติดตามอ่านต่อ บี อบี อันติ วะอุมมี (ตอนที่ 2)