ดังนั้นอิหร่านกับอิสลามแยกออกจากกันไม่ได้ ….!!! หลังจากนั้นฮาดิษจากบรรดาอะอิมมะฮฺ(อ) มาอธิบายๆ จนสมบูรณ์ว่า ทำไมความสำคัญฮาดิษธงดำแห่งโคราซานจะปรากฏขึ้นจงรีบไปที่นั้น ??? เพราะประชาชาตินั้นจะร่วมปฏิวัติกับอิมามมะฮฺดี(อ) …… !!! หมายถึงวันหนึ่งเหตุการณ์นี้จะต้องเกิดขึ้น ประชาชาติที่ถูกกำหนดอันเป็น ตัวหลัก พวกเราคือตัวเสริม ประชาชาติที่ถูกเป็นตัวหลักจะร่วมปฏิวัติโลกกับท่านอิมามมะฮฺดี(อ) นั้นคือประชาชาติอิหร่านและประชาชาติเปอร์เซีย
ซึ่งภารกิจของท่านอิมามริฎอ(อ) ที่ต้องยอมรับความโดดเดี่ยวเดียวดาย ที่ต้องไปเสียชีวิตนอกแผ่นดินอาหรับนั้นก็เพื่อทำภารกิจ อันนี้ เพราะ หลังจากเป็นการชะฮีดของท่าน สุสานของท่านกลายเป็นสุสานที่มีกะรอมัตและมุอฺญิซาตต่างๆ อย่างมากมาย ให้การชะฟาอัตในทุกยุคทุกสมัยจนไม่สามารถที่จะบันทึกหรือคำนวณนับได้
ในบรรดาสุสานหรือฮะรัมของบรรดาอะอิมมะฮฺ(อ)นั้น ฮะรัมของท่านอิมามริฎอ(อ) ถือเป็นฮะรัมที่มีการบันทึกชะฟาอัตมากที่สุด ชะฟาอัตทุกประเภทและทุกรูปแบบ นั้นคือเหตุผลที่หัวใจของชีอะฮฺ ทั้งโลก ทั้งชีอะฮฺในอิหร่าน และชีอะฮฺทั่วโลกจึงมุ่งสู่โคราซาน (มัชฮัด ในยุคปัจจุบัน) ขณะที่เรากำลังพูดและนั่งอยู่ ณ เวลานี้ รายงานล่าสุด มีประชาชน จำนวน 2,500,000 คน อยู่ในมัชฮัดเพื่อไปซิยารัตท่าน อิมามริฎอ(อ) และคาดว่าในวันพรุ่งนี้จะมากถึง 3 ล้านกว่าคน
ถ้าเรานับการซิยารัตในวันเดียวนั้นคนเยอะที่สุดคืออัรบาอีน มีชีอะฮฺรวมตัวกันประมาณ 20 – 30 ล้านคน แต่ถ้าเรานับทั้งปี ว่าอิมามท่านไหนที่มีคนไปซิยารัตมากที่สุดในโลก คำตอบคือ ท่าน “อิมามริฎอ(อ)”
จำได้ว่าสถิติในปีหนึ่งมีคนไปซิยารัตเกือบ 60 ล้านคน ในรอบ หนึ่งปี คือ นับเป็นปี ไม่ใช่นับวัน นับวันนั้นอัรบาอีนเยอะที่สุด แต่นับวันรองลงมาก็คือท่านอิมามริฎอ(อ) แต่ถ้านับสถิติทั้งปีนั้น ไม่มีอิมามท่านใดที่จะมีคนไปซิยารัตมากที่สุดเท่ากับท่านอิมามริฎอ(อ) ปีหนึ่งเฉลี่ยเกือบ 60 ล้านคน เหตุผลเพราะเป็นอิมามที่อัลลอฮฺ(ซบ)ให้บารอกัตพิเศษในเรื่องของการชะฟาอัต ชะฟาอัตทุกรูปแบบ แม้แต่พี่น้อง อะฮฺลิซซุนนะหฺจากปากีสถาน อินเดีย อัฟกานิสถานและ…. ก็ได้รับชะฟาอัตจากท่านอิมามริฎอ(อ)เช่นกัน
เรามีหลักฐานว่าเหตุผลหนึ่งที่เป็นอิมาม(อ)สามารถให้ชะฟาอัตมากที่สุดเพราะอัลลอฮฺ(ซบ)ต้องการที่จะร้อยดวงใจคนทั้งโลกไปยังอิหร่าน นั้นหมายความว่า อัลลอฮฺ(ซบ)ต้องการที่จะร้อยดวงใจของมนุษย์ทั่วทั้งโลกไปยังอิหร่าน ถ้าเราจะถามต่อว่าทำไมอัลลอฮฺ(ซบ) ต้องร้อยดวงใจมนุษย์ทั้งโลกไปยังอิหร่าน ? ผู้ศรัทธาคือคนที่แสวงหา ชะฟาอัต คนที่ขอความช่วยเหลือจากโลกแห่งจิตวิญญาณนั้น เงื่อนไขแรกคือต้องเป็นผู้ศรัทธาในศาสนา เบื้องต้นคือคนที่หวังจากดุอาอฺ คนที่หวังกับการตะวัซซุล คนที่หวังพลังในโลกแห่งจิตวิญญาณ พลังที่ เร้นลับ คนที่หวังในมุอฺญีซาต คนที่หวังในกะรอมัตต่างๆนั้น เงื่อนไข อันแรกคือจะต้องเป็นบุคคลที่มีความศรัทธาในศาสนา มีความเชื่อในเรื่องของศาสนา มีความเชื่อในเรื่องที่ลี้ลับ มีความเชื่อในเรื่องที่เร้นลับ จึงจะไปขอชะฟาอัตจากบรรดาอะอิมมะฮฺ(อ)
ฉะนั้นอิมามริฎอ(อ) จึงถูกกำหนดเพื่อภารกิจอันนี้ ร้อยดวงใจคนทั้งโลกไปยังอิหร่าน ถามว่ามีจุดประสงค์อันใดในการร้อยดวงใจคน ทั้งโลกไปยังอิหร่าน ?
ฮาดิษที่เราได้บอกไว้ว่า วันหนึ่งธงดำจะถูกเชิญขึ้นในโคราซาน ซึ่งพูดมาก่อนยุคสมัยท่านอิมามริฎอ(อ) พูดมาตั้งแต่ยุคสมัยนบี ว่าจะมีการปฏิวัติลูกหลานของฉัน ซึ่งจะปฏิวัติ ณ แผ่นดินนั้นเพื่อจะช่วยเหลือท่านอิมามมะฮฺดี(อ) ฮาดิษจากท่านอิมามอะลี(อ )ท่าน อิมามฮาซัน อัลมุจตาบา(อ) ท่านอิมามฮูเซน(อ) จนมาถึงท่าน อิมามญะอฺฟัร(อ) ท่านอิมามมูซา อัลกาซิม(อ) จนมาถึงท่าน อิมามริฎอ(อ) ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริง… แหละนี่คือบทบาทอันยิ่งใหญ่
ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น ? ต้องย้อนกลับไปยังคำถามในเนื้อหาข้างต้นว่า ทำไมท่านอิมามริฎอ(อ) จึงยอมรับการถูกบังคับให้มายังแผ่นดิน โคราซาน ทำไมไม่ขัดขืน? ทำไมไม่เป็นชะฮีด? ทำไมยอมทิ้งแผ่นดินนั้น? จนกระทั่งกลายเป็นอิมามคนเดียวที่เมื่อเราให้สลาม เราจะต้องเริ่มต้นด้วยคำว่า (ยาฆอรีบัน ฆุรอบาอฺ) โอ้อิมามที่โดดเดี่ยวและเดียวดาย โดดเดี่ยวและเดียวดายขนาดไหน โดดเดี่ยวและเดียวดายถึงขั้นที่ว่า ในวันที่ท่านเสียชีวิต และถูกวางยาพิษ เมื่อมะอฺมูน อัรรอชีด รู้ทั้งหมดแล้วว่า แผนการทั้งหมดที่ทำมานั้นไม่ประสบความสำเร็จ แต่กลับให้ผลในสิ่งที่ตรงกันข้าม พยายามที่จะทำลายท่านอิมามริฎอ(อ) ทุกวิถีทาง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และเขาก็ต้องเลือกวิธีสุดท้ายว่า ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ลมหายใจของพวกเขาก็กำลังต่อสู้และต่อต้าน ทำลายสถานภาพของบรรดาทรราชแห่งยุคสมัย กรณีตัวอย่างของฮารูน อัรรอชีด ยังได้ทำการกักขังท่านอิมามมูซา อัลกาซีม(อ) ในคุกมืด คุกใต้ดิน แต่การอยู่ในคุกของท่านอิมามมูซา อัลกาซิม(อ) ก็มีผลที่สามารถเขย่าบัลลังก์ของฮารูน อัรรอชีด ได้เช่นกัน สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจวางยาพิษในคุก
ท่านอิมามริฎอ(อ) ก็เช่นกัน เมื่อมะอฺมูน พยายามทุกวิถีทางในการที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ(อ) แต่เมื่อไม่ประสบความสำเร็จ ก็จึงตัดสินด้วยการเอาชีวิตอิมาม(อ) และในวันที่ ท่านอิมามริฎอ(อ) เป็นชะฮีดนั้น เหตุผลที่เราให้สลามว่า (ยาฆอรีบัล ฆุรอบาอฺ) เพราะไม่มีญาติสนิทแม้นแต่คนเดียว!!! ท่านอิมามญะวาด(อ) ซึ่งเป็นบุตรชายก็ยังอยู่ในเมืองมะดีนะฮฺ ท่านอิมามริฎอ(อ) ไม่อนุญาตให้มา ให้อยู่ในมะดีนะฮฺ ภายในแผ่นดินห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนอย่างแท้จริง และเป็นชะฮีดอย่างโดดเดี่ยวและเดียวดาย และรู้ล่วงหน้าทั้งหมดว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้นั้นจะต้องเกิดขึ้น
แต่เพื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่ เพื่อเตรียมประชาชาติหนึ่งที่อัลลอฮฺ(ซบ) ได้บอกไว้ในอัลกุรอานว่า ประชาชาตินี้จะนำมาซึ่งความยิ่งใหญ่ในอิสลาม ท่านอิมามริฎอ(อ) จึงยอมรับในสิ่งนี้ ในความจริงแล้วยังมีเรื่องที่เกี่ยวพันอย่างมากมาย การเข้ามาของท่านหญิงมะอฺศูมะฮฺก็เป็น อีกเรื่องหนึ่งเพื่อมาสร้างความยิ่งใหญ่ของเมืองกุม หลังจากการมาของท่านอิมามริฎอ(อ)
เมื่อวันเวลาผ่านไปหลายปี บรรดาบนีฮาชิมก็เริ่มทยอยเข้ามาในโคราซาน เริ่มเข้ามาในอิหร่าน เพื่อที่จะเข้ามาสมทบกับท่านอิมามริฎอ(อ) และพวกเขาจำนวนมากได้เสียชีวิตตามเส้นทางต่างๆ และตามเมืองต่างๆระหว่างแผ่นดินอิรักกับแผ่นดินอิหร่าน และลูกหลานบนีฮาชิม ที่เข้ามาในแผ่นดินอิหร่านได้เสียชีวิตตามเส้นทางต่างๆนั้น สุสานและหลุมฝังศพของพวกเขา ก็กลายเป็นที่มีกะรอมัต ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่าเกือบทุกอำเภอในเส้นทางที่ออกมาจากอิรักเพื่อมุ่งสู่มาดีนะฮฺ เพื่อ มุ่งสุ่โคราซาน นั้น จะมีสุสานของบรรดาบนีฮาชิม จำนวนมาก ซึ่งเราจะเรียกพวกเขาว่าบรรดาอิมามซอเดะฮฺ (บรรดาลูกหลานของอิมาม)นั้นเอง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปาฐกถา เนื่องวันคล้าย วันชะฮาดัตของท่านอิมาม อาลี บินมูซา อัรริฎอ(อ) (บรรยายโดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี)………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ติดตามอ่านต่อ จอมราชันย์แห่งโคราซาน จักรพรรดิแห่งอาหรับและอะญัม (ตอนจบ)